จนท.ระดมกำลังระทึก! หนุ่มวัย 15 เคราะห์ร้าย พลัดตกบ่อบาดาลลึก 30 เมตร ฮึดสู้เตะเท้าลอยคอนานเกือบชั่วโมง รอการช่วยเหลือ ท่ามกลางอากาศที่ใกล้หมด
สัตหีบ – วานนี้ (23 ม.ค. 54) เมื่อเวลา 23.45 น. นายพิชิต เกียกกุทัณ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้รับแจ้งจาก นางประเทือง ชมชื่น อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ซ.วัดเขาคันธมาทน์ ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าหลานชายได้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำบาดาลที่มีความลึกมาก ยังไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นจากบ่อได้ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ รวม 10 นาย และอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต อาทิ เครื่องช่วยหายใจ (SCBA) เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว และเชือก
ใน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณข้างบ้าน พบเจ้าของบ้าน และญาติพี่น้อง กำลังให้การช่วยเหลือนำพัดลมไฟฟ้า หย่อนลงไปในบ่อน้ำบาดาลซึ่งมีความลึกประมาณ 30 เมตร ( 55 ปอก ) ความกว้างปากท่อ 1 เมตร 20 เซนติเมตร ระดับน้ำลึกประมาณ 10 เมตร ระบายอากาศภายในบ่อเพื่อช่วยเหลือชีวิต นายกิตติพงษ์ ทัพพี อายุ 15 ปี หลานชาย ซึ่งพลัดตกลงไปในบ่อ และได้ใช้เท้าตีน้ำลอยคออยู่นานกว่า 30 นาที ท่ามกลางขยะที่ลอยอยู่เหนือน้ำจำนวนมาก จนเริ่มมีอาการอ่อนเพลียลงทุกขณะ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งให้การช่วยเหลือในขั้นต้น ด้วยการส่งเครื่องช่วยหายใจผูกติดกับเชือกหย่อนลงไปในบ่อเพื่อให้ผู้ที่ติด อยู่ด้านล่างได้ใช้หายใจ
จากนั้น นายชัยณรงค์ ชัยขันธ์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย ฯ ได้สวมชุดเครื่องช่วยหายใจ ก่อนจะใช้เชือกโรยตัวลงสู่ก้นบ่อ เพื่อนำเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว สวมใส่ให้ผู้เคราะห์ร้าย ผูกติดกับเชือก จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านบนได้ช่วยกันดึงร่างผู้เคราะห์ร้ายขึ้นสู่ ด้านบนได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้น ผู้เคราะห์ร้ายยังรู้สึกตัว และมีสติดี แต่ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลียและอิดโรย
จากการสอบถาม นายกิตติพงษ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดูทีวีอยู่ในบ้านกับญาติพี่น้อง เมื่อรู้สึกอยากสูบบุหรี่จึงเดินออกข้างบ้านนั่งสูบบุหรี่อยู่บนปากบ่อน้ำ บาดาลที่มีฝาซีเมนต์ปิดอยู่ ในเวลานั้นเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฝาท่อที่นั่งทับอยู่นั้นเกิดพังลงชนิดไม่ทันตั้งตัว จึงไม่สามารถคว้าจับปากบ่อได้ทัน หงายหลังหัวพุ่งตกลงสู่น้ำก้นบ่อไปพร้อมกับฝาท่อ และได้ตะเกียกตะกายตัวเองให้ศีรษะขึ้นพ้นน้ำ เตะเท้าลอยคอให้มีชีวิตอยู่รอดรอการช่วยเหลือ ซึ่งยอมรับว่า ขณะที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้านล่างซึ่งมีความลึกจากพื้นดินมาก การหายใจเริ่มติดขัด ขาทั้งสองข้างชา และเริ่มมีอาการใจสั่น เนื่องจากอากาศด้านล่างมีน้อย โชคดีที่ญาติมาพบ และตามเจ้าหน้าที่มาช่วยชีวิตได้ทันเวลา
นางประเทือง ชมชื่น ยายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เผยว่า หลังจากที่หลานชายได้ขอตัวเดินออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก ก็นั่งดูละครทีวี กับญาติคนอื่น ๆ จากนั้นได้มีเสียงดังสนั่นมาจากข้างบ้าน จึงได้วิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ พบว่าหลานชายตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล จึงได้นำท่อนไม่ไผ่หย่อนลงไปให้หลานชายเกาะ และดึงขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 10 นาที หลานชายได้ตระโกนขึ้นมาบอกว่าหายใจไม่สะดวก ยิ่งทำให้ทุกคนในบ้านอกสั่นขวัญเสีย จึงคิดหาวิธีด้วยการนำถังน้ำดื่มโยนลงไปในบ่อเพื่อให้หลานชายเกาะ และนำพัดลมไฟฟ้าพ่วงสายต่อลงไปด้านล่างบ่อเปิดระบายอากาศให้ถ่ายเท ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือได้ทันเวลา และปลอดภัย ส่วนสาเหตุคาดว่า ฝาท่อมีอายุการใช้งานมาหลายปี จึงมีความเก่า ประกอบกับน้ำหนักตัวหลานชายซึ่งหนักถึง 70 กิโลกรัม ทำให้ฝาซีเมนต์ปิดปากบ่อบาดาลไม่สามารถทานน้ำหนักได้ จึงเกิดพังทลายลงมา
สัตหีบ – วานนี้ (23 ม.ค. 54) เมื่อเวลา 23.45 น. นายพิชิต เกียกกุทัณ หัวหน้าหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ ได้รับแจ้งจาก นางประเทือง ชมชื่น อายุ 63 ปี อยู่บ้านเลขที่ 59/1 ซ.วัดเขาคันธมาทน์ ม.9 ต.สัตหีบ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ว่าหลานชายได้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำบาดาลที่มีความลึกมาก ยังไม่สามารถช่วยเหลือขึ้นจากบ่อได้ หลังรับแจ้งได้รุดไปตรวจสอบ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย เทศบาลตำบลเขตรอุดมศักดิ์ รวม 10 นาย และอุปกรณ์ช่วยเหลือชีวิต อาทิ เครื่องช่วยหายใจ (SCBA) เข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว และเชือก
ใน ที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยวชั้นเดียว จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณข้างบ้าน พบเจ้าของบ้าน และญาติพี่น้อง กำลังให้การช่วยเหลือนำพัดลมไฟฟ้า หย่อนลงไปในบ่อน้ำบาดาลซึ่งมีความลึกประมาณ 30 เมตร ( 55 ปอก ) ความกว้างปากท่อ 1 เมตร 20 เซนติเมตร ระดับน้ำลึกประมาณ 10 เมตร ระบายอากาศภายในบ่อเพื่อช่วยเหลือชีวิต นายกิตติพงษ์ ทัพพี อายุ 15 ปี หลานชาย ซึ่งพลัดตกลงไปในบ่อ และได้ใช้เท้าตีน้ำลอยคออยู่นานกว่า 30 นาที ท่ามกลางขยะที่ลอยอยู่เหนือน้ำจำนวนมาก จนเริ่มมีอาการอ่อนเพลียลงทุกขณะ เจ้าหน้าที่จึงได้เร่งให้การช่วยเหลือในขั้นต้น ด้วยการส่งเครื่องช่วยหายใจผูกติดกับเชือกหย่อนลงไปในบ่อเพื่อให้ผู้ที่ติด อยู่ด้านล่างได้ใช้หายใจจากนั้น นายชัยณรงค์ ชัยขันธ์ อายุ 29 ปี เจ้าหน้าที่หน่วยบรรเทาสาธารณภัย ฯ ได้สวมชุดเครื่องช่วยหายใจ ก่อนจะใช้เชือกโรยตัวลงสู่ก้นบ่อ เพื่อนำเข็มขัดนิรภัยแบบเต็มตัว สวมใส่ให้ผู้เคราะห์ร้าย ผูกติดกับเชือก จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่อยู่ด้านบนได้ช่วยกันดึงร่างผู้เคราะห์ร้ายขึ้นสู่ ด้านบนได้อย่างปลอดภัย เบื้องต้น ผู้เคราะห์ร้ายยังรู้สึกตัว และมีสติดี แต่ยังอยู่ในอาการอ่อนเพลียและอิดโรย
จากการสอบถาม นายกิตติพงษ์ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุได้นั่งดูทีวีอยู่ในบ้านกับญาติพี่น้อง เมื่อรู้สึกอยากสูบบุหรี่จึงเดินออกข้างบ้านนั่งสูบบุหรี่อยู่บนปากบ่อน้ำ บาดาลที่มีฝาซีเมนต์ปิดอยู่ ในเวลานั้นเรื่องที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ฝาท่อที่นั่งทับอยู่นั้นเกิดพังลงชนิดไม่ทันตั้งตัว จึงไม่สามารถคว้าจับปากบ่อได้ทัน หงายหลังหัวพุ่งตกลงสู่น้ำก้นบ่อไปพร้อมกับฝาท่อ และได้ตะเกียกตะกายตัวเองให้ศีรษะขึ้นพ้นน้ำ เตะเท้าลอยคอให้มีชีวิตอยู่รอดรอการช่วยเหลือ ซึ่งยอมรับว่า ขณะที่ต้องใช้ชีวิตอยู่ด้านล่างซึ่งมีความลึกจากพื้นดินมาก การหายใจเริ่มติดขัด ขาทั้งสองข้างชา และเริ่มมีอาการใจสั่น เนื่องจากอากาศด้านล่างมีน้อย โชคดีที่ญาติมาพบ และตามเจ้าหน้าที่มาช่วยชีวิตได้ทันเวลา
นางประเทือง ชมชื่น ยายหนุ่มผู้เคราะห์ร้าย เผยว่า หลังจากที่หลานชายได้ขอตัวเดินออกไปสูบบุหรี่ด้านนอก ก็นั่งดูละครทีวี กับญาติคนอื่น ๆ จากนั้นได้มีเสียงดังสนั่นมาจากข้างบ้าน จึงได้วิ่งออกมาดูด้วยความตกใจ พบว่าหลานชายตกลงไปในบ่อน้ำบาดาล จึงได้นำท่อนไม่ไผ่หย่อนลงไปให้หลานชายเกาะ และดึงขึ้นมาแต่ไม่สำเร็จ กระทั่งเวลาผ่านไปนานกว่า 10 นาที หลานชายได้ตระโกนขึ้นมาบอกว่าหายใจไม่สะดวก ยิ่งทำให้ทุกคนในบ้านอกสั่นขวัญเสีย จึงคิดหาวิธีด้วยการนำถังน้ำดื่มโยนลงไปในบ่อเพื่อให้หลานชายเกาะ และนำพัดลมไฟฟ้าพ่วงสายต่อลงไปด้านล่างบ่อเปิดระบายอากาศให้ถ่ายเท ก่อนจะแจ้งเจ้าหน้าที่มาทำการช่วยเหลือได้ทันเวลา และปลอดภัย ส่วนสาเหตุคาดว่า ฝาท่อมีอายุการใช้งานมาหลายปี จึงมีความเก่า ประกอบกับน้ำหนักตัวหลานชายซึ่งหนักถึง 70 กิโลกรัม ทำให้ฝาซีเมนต์ปิดปากบ่อบาดาลไม่สามารถทานน้ำหนักได้ จึงเกิดพังทลายลงมา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น