เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง

อ่าน.......ขำๆ

วันพุธที่ 26 มกราคม พ.ศ. 2554

ข่มขืนผู้ชาย เพิ่งรู้ว่ามีจริง


มื่อ ก่อนกฎหมายปกป้องการข่มขืนเฉพาะผู้หญิงเท่านั้น แต่ปัจจุบันหลาย ๆ ประเทศได้เข็นกฎหมายปกป้องทุกเพศแล้ว อย่างไรก็ตามหลายคนอาจเคยนึกสงสัยว่าผู้ชายถูกข่มขืนได้ด้วยหรือ แล้วมันเป็นอย่างไร
ขอเริ่มจากสถิติก่อน ในปี ๑๙๙๙ Spitzberg สำรวจ กลุ่มตัวอย่างกว่าหนึ่งแสนคนพบว่า มีผู้ชายที่ตกเป็นเหยื่อถูกข่มขืนโดยผู้หญิงจนสำเร็จ ถึง ๓.๓% และอีกมีความพยายามที่จะข่มขืนอีก ๕.๕% โดยผู้หญิงนะจ๊ะ นอก จากนี้ยังมีการศึกษาเยอรมันก็ได้เปอร์เซ็นต์ใกล้ ๆ กับงานวิจัยด้านบน กลุ่มตัวอย่างทั้งหมดเป็นชายรักต่างเพศ (heterosexuals)ซะด้วย อย่างไรก็ตามสถิติเกี่ยวกับชายถูกข่มขืนนั้นมักใช้การไม่ค่อยได้ เพราะผู้ชายมีแนวโน้มที่จะปิดบังประสบการณ์การถูกล่วงละเมิดทาง เพศมากกว่าผู้หญิง เหตุผลสำคัญประการหนึ่งคือกลัวถูกดูถูกเหยียดหยาม หรือโดยมองในแ่ง่ลบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผู้ชายด้วยกันนี่แหละตัวดี เหตุผลอีกประการที่ผู้ชายไม่ค่อยรายงานเรื่องการถูกล่วงละเมิดทางเพศก็คือมันได้รับความสนใจจากสื่อ และงานทางจิตวิทยา รวมทั้งการแพทย์น้อยกว่าผู้หญิง   

ผล ที่ตามมาจากที่มีการรายงานอุบัติการณ์ถูกข่มขืนน้อย ทำให้งานวิจัยเรื่องความรุนแรงทางเพศที่มีต่อผู้ชายน้อยตามไปด้วย และความจริงแล้วมีหลายรัฐของอเมริกาเพิ่งจะทบทวนกฎหมายว่าด้วยการข่มขืนใน ทศวรรษที่ผ่านมานี้เอง โดยรวมนิยามให้ผู้ชายสามารถตกเป็นเหยื่อการข่มขืนด้วย


อย่าง ไรก็ตาม ส่วนใหญ่การข่มขืนผู้ชายมักเกิดชายรักต่างเพศที่ชอบก่ออาชญากรรมประเภทนี้ ร่วมกับเพื่อนอีกคน หรืออาจเป็นหมู่คณะ  เช่นเดียวกับการข่มขืนผู้หญิง การข่มขืนผู้ชายมักเกี่ยวข้องกับความรุนแรงและอำนาจเสมอ... การ ข่มขืนผู้ชายด้วยกันมันเป็นการแสดงอำนาจเหนือกว่าเหยื่อ กูเจ๋งกว่า กูเหนือกว่า อะไรทำนองนั้น เพราะฉะนั้นจึงมีรายงานเรื่องเลสเบี้ยนบางคนถูกข่มขืน เพราะพวกเธอมีบุคลิกที่ท้าทายอำนาจของผู้ชาย
การถูกข่มขืนเกิดขึ้นมากในหมู่โฮโมเซ็กช่วล แต่คนข่มขืนส่วนใหญ่เป็นชายแท้ (แต่นักข่มขืนที่เป็นเกย์ก็มีบ้าง)... ถ้าคุณเคยอยู่โรงเรียนชายล้วน คุณจะพบเห็นหรือได้ยิน การคุกคามทางเพศต่อผู้ชายนิ่ม ๆ ตุ้งติ้ง ๆ หน่อย เช่น จับแก้ผ้า จับก้น จับจู๋ หรือทางวาจา เช่น ล้อเรื่องการมีเพศสัมพันธ์ทางปาก หรือทางทวารหนัก เป็นต้น...




[color=rgb(51,51,51)]การ ข่มขืนในคุกเป็นปัญหาร้ายแรงปัญหาหนึ่งเช่นกัน จากการสอบถามผู้ต้องขังจำนวน ๒๐๐๐ คนใน ๗ เรือนจำ พบว่า ๒๑% ถูกคุกคามทางเพศ ๗% ถูกข่มขืน คนข่มขืนระบุว่าตนเป็นชายแท้ เมื่อถูกปล่อยตัวจะกลับไปมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงอีก ชายที่ถูกข่มขืนหลายคนถูกกลุ่มแก็งในคุกทำร้าย ดังนั้นจึงยอมเป็นเซ็กส์พาร์ทเนอร์ให้ผู้ต้องขังที่มีอำนาจมากในคุกคนหนึ่ง เพื่อให้ปกป้องเขาจากคนอื่น



แม้ ว่าแต่ก่อนผู้ชายจะไม่กล้ารายงานการถูกผู้หญิงข่มขืน แต่ระยะหลังมานี้มีรายงานถี่ขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อก่อนแนวคิดที่ว่าผู้ชายโต ๆ แล้วถูกผู้หญิงข่มขืน ไม่ได้รับการยอมรับเพราะเชื่อกันว่าผู้ชายไม่สามารถ "แข็ง"  ได้ ในภาวะที่กำลังกลัวหรือวิตกกังวล แต่งานวิจัยของ Kinsey และผองเพื่อนได้ปฏิเสธความเชื่อดังกล่าว ทั้งยังเสนอว่าทั้งชายและหญิงสามารถตอบสนองทางเพศได้ในหลากหลายภาวะิทาง อารมณ์ แต่การตอบสนองทางเพศระหว่างถูกล่วงละเมิดโดยเฉพาะการถึง "จุดสุดยอด" นั้นอาจสร้างความสับสนและความกังวลให้แก่เหยื่อทั้งสองเพศ...อ่ะนะ...




[color=rgb(51,51,51)]มี งานวิจัยตัวหนึ่งศึกษา ชาย ๑๑ คนที่ถูกผู้หญิงข่มขืน ไม่มีใครยอมเล่าเรื่องการถูกคุกคาม ไม่พูดถึงมันเลยด้วยซ้ำ จนกระทั่งได้รับการบำบัดไปหลายปีต่อมา [color=rgb(51,51,51)][color=rgb(255,0,127)]ชายเหล่านี้มีความซึมเศร้า กังวลเกี่ยวกับการมีเซ็กส์ และอาจถึงขั้นสูญเสียสมรรถภาพทางเพศไปเลย[color=rgb(51,51,51)] มีงานวิจัยอื่นรองรับด้วยว่า ผู้ชายที่ถูกข่มขืน ไม่ต่างจากผู้หญิงที่ถูกข่มขืน คือจะได้รับผลกระทบทางอารมณ์และทางเพศเป็นระยะเวลานาน





การ ล่วงละเมิดทางเพศผู้ชายเกิดขึ้นในสงครามด้วย แต่เหยื่อที่ถูกข่มขืนในสงครามได้รับความสนใจจากสื่อและนักวิจัยน้อยมาก เนื่องจากความเชื่อที่ว่ามีแต่ผู้หญิงเท่านั้นที่จะตกเป็นเหยื่อทางเพศใน สงครามได้ ทำให้ระบบกฎหมายแห่งชาติหลายแห่งปิดตายประเด็นการล่วงละเมิดทาง เพศผู้ชายในเวลาสงครามไปเลย อย่างไรก็ตามความคิดที่ว่าผู้ชายก็ตกเป็นเหยื่อทางเพศได้ เริ่มขยายวงกว้างขึ้น เมื่อศาลอาญาสากลสำหรับชาวยูโกสลาเวีย รายงานว่ามีผู้ชายจำนวนมากถูกข่มขืนและล่วงละเมิดทางเพศ ในช่วงที่พื้นที่แถบนั้นมีปัญหาความขัดแย้งเกิดขึ้น




ขอบคุณข้อมูลจาก : [url=http://www.postjung.com/external.php?url=http%3A%2F%2Fpisces.exteen.com%2F20081003%2Fentry]http://pisces.exteen.com/20081003/entry[/url]

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น