เปิดบัญชี“แสนยานุภาพทหารไทย”!!!!!

“ทัพบก”สุดปึ้ก-“ทัพฟ้า”ล้าสมัย

        

ช่วงนี้ “ไทย-เขมร” มีข่าวฮึ่มๆเรื่องดินแดน “ปราสาทเขาพระวิหาร” อย่างหนัก จนใครหลายๆกังวลว่า “สงครามไทย-เขมร” จะปะทุขึ้น และกลายเป็น “คำถาม” ว่า ถ้าต้องรบกันจริงๆ.....

               “แสนยานุภาพทหารไทย” จะไหวมั้ย!!!!! 

               กล่าวถึง “สงคราม” เป็น ประดิษฐกรรมทางวัฒนธรรมของมนุษย์ที่ค่อนข้างไร้เหตุผล แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เราหลีกหนีความจริงที่ว่ามันมีอยู่ ทุกประเทศในโลกจึงต่างต้องสะสมอาวุธยุทโธปกรณ์และพัฒนาศักยภาพกองทัพอยู่ เสมอ เพื่อรักษาดุลอำนาจและความมั่นคงของประเทศตนเอง เข้าทำนองที่ว่า.....

             ยามศึกเรารบ ยามสงบเราเตรียมพร้อม…..

              ทั้งนี้ มีข้อมูลอ้างอิงจากเว็บไซต์ GlobalFirepower.com ที่วิเคราะห์ความแข็งแกร่งของกองทัพทั่วโลก โดยพิจารณาจากความพร้อมทางทหาร อาวุธ และเทคโนโลยี และทำการจัดอันดับ ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสหรัฐ อยู่อันดับ 1 ตามด้วยจีน รัสเซีย อินเดีย และอังกฤษ

                ที่น่าแปลกใจ คือ ความแข็งแกร่งของไทยอยู่อันดับที่ 28 ของโลก อันดับ 6 ของเอเชีย และเป็นที่ 2 ใน เอเชียตะวันออกเฉียงใต้!!!!! เป็นรองก็แต่อินโดนีเซีย เรียกได้ว่าเกินความคาดหมาย เพราะคนไทยเองถึงจะไม่คิดว่ากองทัพไทยอ่อนแอ แต่คงนึกไม่ถึงว่าจะแข็งแกร่งเยี่ยงนี้

ที่มาแห่งแสนยานุภาพกองทัพไทย

                GlobalFirepower.com บอกว่า ไทยมีทหารพร้อมรบ 314,000 นาย มีกองกำลังสำรอง 200,000 นาย นอกจากนี้ยังลงรายละเอียดไว้หลายเรื่อง เช่น กองทัพบกมีรถถัง 1,380 คัน ปืนครก 1,900 กระบอก ปืนต่อต้านอากาศยาน 334 กระบอก กองทัพอากาศมีเครื่องบิน 260 ลำ หรือกองทัพเรือมีเรือทั้งสิ้น 74 ลำ เป็นต้น

                ย้อนดูจากประวัติศาสตร์ช่วงที่ “สงครามเย็น” คุก รุ่น ลัทธิคอมมิวนิสต์กำลังคุกคามโลกเสรี เวียดนาม ลาว ล้มครืนเป็นโดมิโน หันมาปกครองด้วยระบอบคอมมิวนิสต์ สหรัฐซึ่งเป็นพี่เบิ้มโลกเสรีจึงใช้ไทยเป็นฐานเพื่อค้ำยันลัทธิคอมมิวนิสต์ ให้อยู่ ทำให้มีการสนับสนุนทางด้านทหารแก่ไทย

               แหล่ง ข่าวนายทหารระดับสูงที่เกษียณแล้ว เล่าว่า ช่วงสงครามเย็นเรารบกับเวียดนาม อเมริกาก็มาอยู่ที่อุดรธานี นครราชสีมา เขาใช้เราเป็นฐานที่จะรบกับเวียดนาม พอสงคารมเวียดนามยุติเขาก็ถอนออก ซึ่งตอนที่รบกับเวียดนามเขาสนับสนุนเราเต็มที่ เราจะเอาอะไรเขาก็ให้

                ถ้าดูปัจจัยภายในประเทศเอง คงไม่ต้องบอกว่าที่ผ่านมาจนถึงเดี๋ยวนี้ ทหารมีบทบาทมากเพียงใดต่อการเมืองไทย การ “อุดหนุนกองทัพ” จึงเป็นสิ่งที่เกือบทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ เพราะถือเป็นการค้ำประกันข้อหนึ่งว่าจะไม่มีการลากรถถังออกมา “ปฏิวัติ”

                นาย ทหารคนเดิม บอกว่า ศักยภาพกองทัพไทยถือว่าไม่แพ้ประเทศเพื่อนบ้านจริง อีกทั้งยังมีประสบการณ์การสู้รบมาตลอด แม้จะว่างเว้นไปในช่วงหลังๆบ้าง แต่ก็มีการพัฒนาต่อเนื่อง ทั้งในด้านเสนาธิการและในด้านอาวุธที่ขณะนี้กองทัพมีความพยายามที่จะพัฒนา อาวุธขึ้นใช้เอง เพียงแต่คุณภาพอาจจะยังไม่เทียบเท่าของตะวันตก

“ทัพบก”สุดปึ้ก-“ทัพฟ้า”ล้าหลัง

                แน่นอนว่า “กองทัพบก” คือ กองทัพที่ทรงอานุภาพที่สุด ขณะที่ในความเห็นของเขา “กองทัพอากาศ” ถือว่าเป็นหน่วยรบที่มีอาวุธค่อนข้างล้าสมัยที่สุด ส่วน “ราชนาวีไทย” มีเพียงศักยภาพในการปกป้องน่านน้ำเท่านั้น

              อย่างไรก็ตามหากต้องสู้รบกับเพื่อนบ้าน กองทัพไทยมีศักยภาพมากพอที่จะจบเกม!!!!!

                เขา เสริมว่า ขนาดกองทัพไม่ได้เพิ่มตลอด แต่จากดูภัยคุกคามและดุลอำนาจในภูมิภาค เช่น ช่วงสงครามเวียดนาม ถ้าเวียดนามเพิ่มขนาดกองทัพ เราก็ต้องเพิ่ม แต่ภายหลังเมื่อเวียดนามลดขนาดกองทัพลง เราก็ลดลงเช่นกัน และแม้ใครจะไม่เห็นด้วยกับเรื่องงบประมาณกลาโหมจำนวนมาก แต่มันถือเป็นสิ่งจำเป็น เพราะอย่างน้อยกองทัพถือเป็นเครื่องมือในการต่อรองเพื่อรักษาผลประโยชน์และ ทรัพยากรทางทะเลของประเทศอย่างหนึ่ง

อันดับ28...แค่ปริมาณ หรือคุณภาพ

               “กอง ทัพไทยถูกจัดอันดับไว้ถูกต้องแล้ว เพราะกองทัพไทยไม่ได้เป็นรองใคร ยังดีกว่าอีกหลายๆประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะฉะนั้นความเข้มแข็งของกองทัพไทยมันมีอยู่ตลอดแม้กระทั่งขณะนี้ ในด้านอาวุธยุทโธปกรณ์ของเรานั้นเข้มแข็งกว่าหลายๆประเทศในอาเซียน ถ้าเปรียบเทียบกับเขมร แล้วกองทัพเราเข้มแข็งกว่าเขมรหลายร้อยเท่าเลย”.....

               นี่คือมุมมองของ “น.ต.ประสงค์ สุ่นศิริ” ผู้เชี่ยวชาญทางด้านการเมือง การทหาร และข่าวกรองของประเทศไทย ที่มีต่อตัวเลขอันดับที่ 28 ใน เรื่องของแสนยานุภาพกองทัพ ซึ่งเขาบอกว่า รู้ถึงสมรรถภาพประสิทธิภาพของกองทัพเป็นอย่างดี รู้ว่าจำนวนกำลังทหารของกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศ มีเท่าไร มีอาวุธยุทโธปกรณ์ขนาดไหน เพียงแต่ไม่สามารถเปิดเผยจำนวนได้เท่านั้น และยังยืนยันว่ากองทัพยังเข้มแข็งอยู่

                “แต่การที่เราอาจเห็นภาพว่ากองทัพอ่อนแอ ไม่ว่าจะกรณี 3 จังหวัด ชายแดนภาคใต้ หรือกรณีกัมพูชา เป็นเพราะการเมืองอ่อนแอและเข้าแทรกแซงกองทัพมาโดยตลอดต่างหาก บวกกับการดำเนินนโยบายที่ผิดพลาดด้วยอีกส่วนหนึ่ง” น.ต.ประสงค์ กล่าว

                ด้าน “ศ.ดร.ไชยวัฒน์ ค้ำชู” อาจารย์ ประจำคณะรัฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มองว่า ข้อมูลที่ออกมาน่าจะเป็นในรูปของเชิงปริมาณมากกว่าเชิงคุณภาพ เพราะการต่อสู้กันจริงๆนั้นเกี่ยวข้องกับปัจจัยอื่นๆอีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นอุดมการณ์ทางความคิด รวมไปถึงยุทธศาสตร์ต่างๆ ในการต่อสู้

                “จริงๆ แล้วเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับอาวุธเพียงเดียว แต่ยังขึ้นอยู่กับบุคลากร และขวัญกำลังใจด้วย บางประเทศกำลังคนน้อยกว่าอาจจะสู้ชนะก็ได้ เช่น ตอนที่จีนทำสงครามกับเวียดนาม แม้เวียดนามจะมีคนน้อยกว่า แต่ก็สามารถทำให้ทหารจีนตายมากกว่าได้ หรืออย่างกรณีที่ไทยรบกับลาวที่บ้านร่มเกล้าก็เอาชนะไม่ได้ ซึ่งเรื่องพวกนี้ต้องพิจารณาหลายอย่าง ทั้งปัจจัยเรื่องยุทธศาสตร์และชัยภูมิต่างๆ ด้วย เพราะฉะนั้นการที่คุณมีแสนยานุภาพเยอะ ก็ไม่ได้หมายความจะมีดุลอำนาจทางทหารมากกว่าแต่อย่างใด” ศ.ดร.ไชยวัฒน์ กล่าว

“ทหารไทย”พร้อมพลีชีพเพื่อชาติ

                นายทหารประจำกองพลแห่งหนึ่งที่ลงพื้นที่ 3 จังหวัด ชายแดนใต้เป็นประจำ บอกว่า รู้สึกมั่นใจในศักยภาพของกองทัพไทย โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับเพื่อนบ้านที่มีพื้นที่ชายแดนติดต่อกันอย่างลาว กัมพูชา พม่า

                ส่วนนายทหารอีกคนหนึ่ง สังกัดกองร้อยทหารราบที่ 15121 หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส หรือ “ฐานปฏิบัติการพระองค์ดำ” อ.ระ แงะ จ.นราธิวาส ก็แสดงความมั่นใจในความพร้อมด้านยุทโธปกรณ์ว่า อาวุธที่ทางหน่วยมีเพียงพอกับกำลังคน เป็นอาวุธที่ใช้งานได้ทุกอย่าง ถึงบางอย่างเป็นอาวุธที่ผ่านการใช้งานมาเป็นสิบปีก็ยังใช้งานได้ดีครับ ประสิทธิภาพเต็มร้อย

                เขายังบอกด้วยว่าหากเกิดสงคราม ทหารไทยพร้อมสละเลือดเนื้อ…..มัน เต็มร้อยนะครับ ไม่ได้ลดหย่อนอะไร มันใช้ได้ดี ถ้าพูดง่ายๆ คือ ยิงคนตายเหมือนกันนะครับ ถ้าประเทศไทยมีการรบ ก็รบสู้ได้อยู่แล้วครับ!!!!!

+++++++++++++++++++++++++

ประเทศที่มีทหารและยุทโธปกรณ์ เป็นอันดับ 1 ในแต่ละหมวด(ข้อมูลเมื่อปี 2553) มีดังนี้.....

               1.ประเทศที่มีทหารประจำการมากที่สุดในโลก คือ จีน มีทหารประจำการ 2,250,000 นาย คิดเป็น 12.9% ของทหราประจำการของทั้งโลก

                2.ประเทศที่มีทหารกองหนุนมากที่สุดในโลก คือ เกาหลีเหนือ 4,70,000 นาย คิดเป็น 10.5% ของทหารกองหนุนของทั้งโลก

                3.ประเทศที่มีงบประมาณทางการทหารมากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มีงบประมาณ 24,885 ล้านล้านบาท/ปี คิดเป็น 29.5% ของงบประมาณทางการทหารของทั้งโลก

                4.ประเทศที่มีรถถังมากที่สุดในโลก คือ รัสเซีย มีรถถัง 22,800 คัน คิดเป็น 26.3% ของรถถังของทั้งโลก

                5.ประเทศที่มีเรือบรรทุกเครื่องบินมากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มี 12 ลำ คิดเป็น 54.5% ของเรือบรรทุกเครื่องบินของทั้งโลก

                6.ประเทศที่มีเรือรบครูเซอร์มากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มี 22 ลำ คิดเป็น 71% ของเรือรบครูเซอร์ของทั้งโลก

                7.ประเทศที่มีเรือพิฆาตเล็ก(destroyer) มากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มี 53 ลำ คิดเป็น 34.6% ของเรือพิฆาตเล็กของทั้งโลก

                8.ประเทศที่มีเรือฟริเกต(Frigate ) มากที่สุดในโลก คือ จีน 49 ลำ คิดเป็น 15.3% ของเรือฟริเกตของทั้งโลก

9.ประเทศที่มีเรือคอร์เวต(Corvette) มากที่สุดในโลก คือ รัสเซีย 85 ลำ คิดเป็น 25% ของเรือคอร์เวตของทั้งโลก

                10.ประเทศที่มีเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มี 71 ลำ คิดเป็น 53% ของเรือดำน้ำพลังงานนิวเคลียร์ ของทั้งโลก

                11.ประเทศที่มีเรือดำน้ำมากที่สุดในโลก คือ เกาหลีเหนือ มี 78 ลำ คิดเป็น 25% ของเรือดำน้ำของทั้งโลก

                12.ประเทศที่มีเครื่องบินรบมากที่สุดในโลก คือ สหรัฐอเมริกา มี 2,604 ลำ คิดเป็น 9.2% ของเครื่องบินรบ ของทั้งโลก

                13.ประเทศที่มีระเบิดนิวเคลียร์มากที่สุดในโลก คือ รัสเซีย 16,800 ลูก คิดเป็น 64% ของระเบิดนิวเคลียร์ของทั้งโลก

+++++++++++++++++++++++++