ที่ผ่านมาหน่วย งานที่เกี่ยวข้องด้านการเกษตรมีความพยายามที่จะเพิ่มมูลค่าข้าวไทยให้มีราคา เพิ่มขึ้น และสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ทำการวิจัยคิดค้นทำข้าวแกงทอดกึ่งสำเร็จรูป ใน ลักษณะของอาหารแช่แข็งได้เป็นผลสำเร็จ คาดหวังว่าจะเป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคที่ชื่นชอบทานอาหารฟาสฟู้ด จากต่างประเทศอย่าง ไก่ทอดเคเอฟซี ให้หันมาทานอาหารไทยที่มีลักษณะคล้ายกันดูบ้าง

นางสาวเพลินใจ ตังคณะกุล นักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงข้าวแกงทอดว่า เป็นผลิตภัณฑ์ข้าวปรุงรสทอดกึ่งสำเร็จรูปชนิดแช่แข็ง เป็นอาหารจานด่วนที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้สะดวกสบายและรวดเร็วไม่ ยุ่งยากในการเตรียมอาหาร มีคุณค่าทางสุขภาพจากส่วนผสมที่เป็นพืชสมุนไพร โดยผลิตภัณฑ์ใช้ข้าวหอมมะลิหรือข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลัก มีสมุนไพรและเครื่องเทศปรุงแต่งกลิ่น รสชาติ ให้มีกลิ่นอายของอาหารไทย
โดยมี 4 สูตร ได้แก่ สูตรแกงเหลือง สูตรแกงเขียวหวาน สูตรข้าวหมก และสูตรแกงคั่ว ซึ่งจะขึ้นรูปเป็นชิ้นกลมแบน และนำไปชุบแป้งก่อนที่จะนำไปทอดที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 30 วินาที จากนั้นนำไปแช่เยือกแข็งที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส และเตรียมเพื่อรับประทานได้โดยนำไปทอดให้เหลืองทั้งชิ้น ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 เดือน เพราะถ้าเก็บนานกว่านั้นกลิ่นของสมุนไพรเครื่องเทศก็จะค่อยจางไป

ข้าวแกงทอดกึ่งสำเร็จรูป เกิดขึ้นจากความคิดที่ต้องการจะเพิ่มมูลค่าข้าวไทย ซึ่งเป็นโครงการวิจัยของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร โดยทางสถาบันฯมองว่าข้าวแกงไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยเป็นอาหารที่มีคุณภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับ สากล และที่เลือกข้าวแกงเพราะเป็นอาหารไทย ที่มีผลงานวิจัยของสถาบันฯที่ออกมายืนยันได้ถึงคุณค่าเชิงสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมของเครื่องเทศสมุนไพร โดยเฉพาะขมิ้นชันมีผลงานวิจัยที่ออกมายืนยันถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นอาหารไทยหลายตัวที่เลือกมาใช้จะมีส่วนผสมของขมิ้นชัน
ทั้งนี้ ที่เลือกแกงทั้ง 4 สูตร เพราะเป็นแกงไทยที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศ มีสารไดสารฟันอลิค ในการต้านอนุมูลอิสระ และเป็นแกงไทยที่คนรุ่นใหม่เริ่มไม่ค่อยรู้จักและได้เห็นหน้าตากันมากนัก อย่าง แกงคั่ว ส่วนแกงเขียวหวานก็เป็นแกงไทยซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในกลุ่มของ ชาวต่างชาติ ในขณะที่แกงเหลืองนั้นเป็นอาหารประจำท้องถิ่นอย่างภาคใต้ ที่มีส่วนผสมของขมิ้น เช่นเดียวกับข้าวหมก ที่มีส่วนผสมของขมิ้นและเครื่องเทศหลายตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สำหรับในส่วนของข้าวหนึ่งก้อนที่ทางสถาบันฯทำออกมาจะมีขนาดน้ำหนักประมาณ 25 กรัม ซึ่งได้มีการคำนวณแล้วว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีคำ ต้นทุนอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 1-2 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นทุนแกง ซึ่งเป็นต้นทุนที่ยังไม่รวมค่าดำเนินการ หรือค่าใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ ข้อเสียของข้าวแกงทอดอยู่ที่ไขมันที่ค่อนข้างสูง เพราะต้องผ่านการทอด แต่ก็ยังไม่สามารถหาวิธีใดที่มาใช้แทนการทอด เพราะการทอดจะได้รสชาติที่กรอบนอกและนุ่มใน
พี่เพลินใจ เล่าถึงงานวิจัยชิ้นนี้ว่า สามารถขยายผลได้ในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่อยู่ในไลน์ของอาหารโฟรเซ่น สามารถรับการถ่ายทอดเทคนิคก็นำไปผลิตได้เลย หรือในส่วนของการขยายผลในกลุ่มเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเป็นงานวิจัยที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สูงมาก ทุกคนสามารถทำได้โดยรู้เทคนิคการผลิต และนำไปขยายผลในรูปของอาหารอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก ซึ่งอาหารไทยก็ยังมีอีกนับร้อยชนิดให้สามารถไปขยายผลต่อได้

โดยผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้ใช้เวลา 5 เดือนในการทำวิจัย และทาง สถาบันได้ส่งผลงานเข้าประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งจัดโดยมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะเป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีการเปลี่ยนลักษณะและรูป แบบของข้าวแกงทั่วไปให้เป็นรูปลักษณ์ที่เป็นสากลสะดวกในการเตรียมรับประทาน และได้ทำการจดอนุสิทธิบัตร ผู้สนใจต้องขอรับการถ่ายทอดจากสถาบันฯเท่านั้น
โทร.0-2942-8630 ต่อ 814 **ข้อมูลเพิ่มเติมแฟรนไชส์ป้าอู๊ดข้าวแกงทอด**
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์

นางสาวเพลินใจ ตังคณะกุล นักวิจัยสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวถึงข้าวแกงทอดว่า เป็นผลิตภัณฑ์ข้าวปรุงรสทอดกึ่งสำเร็จรูปชนิดแช่แข็ง เป็นอาหารจานด่วนที่เป็นทางเลือกให้กับผู้บริโภคได้สะดวกสบายและรวดเร็วไม่ ยุ่งยากในการเตรียมอาหาร มีคุณค่าทางสุขภาพจากส่วนผสมที่เป็นพืชสมุนไพร โดยผลิตภัณฑ์ใช้ข้าวหอมมะลิหรือข้าวเหนียวเป็นส่วนประกอบหลัก มีสมุนไพรและเครื่องเทศปรุงแต่งกลิ่น รสชาติ ให้มีกลิ่นอายของอาหารไทย
โดยมี 4 สูตร ได้แก่ สูตรแกงเหลือง สูตรแกงเขียวหวาน สูตรข้าวหมก และสูตรแกงคั่ว ซึ่งจะขึ้นรูปเป็นชิ้นกลมแบน และนำไปชุบแป้งก่อนที่จะนำไปทอดที่อุณหภูมิ 150 องศาเซลเซียส เป็นเวลานาน 30 วินาที จากนั้นนำไปแช่เยือกแข็งที่อุณหภูมิ -18 องศาเซลเซียส และเตรียมเพื่อรับประทานได้โดยนำไปทอดให้เหลืองทั้งชิ้น ซึ่งสามารถเก็บไว้ได้นาน 3-4 เดือน เพราะถ้าเก็บนานกว่านั้นกลิ่นของสมุนไพรเครื่องเทศก็จะค่อยจางไป

ข้าวแกงทอดกึ่งสำเร็จรูป เกิดขึ้นจากความคิดที่ต้องการจะเพิ่มมูลค่าข้าวไทย ซึ่งเป็นโครงการวิจัยของสถาบันค้นคว้าและพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหาร โดยทางสถาบันฯมองว่าข้าวแกงไทย ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์จากข้าวไทยเป็นอาหารที่มีคุณภาพซึ่งเป็นที่ยอมรับในระดับ สากล และที่เลือกข้าวแกงเพราะเป็นอาหารไทย ที่มีผลงานวิจัยของสถาบันฯที่ออกมายืนยันได้ถึงคุณค่าเชิงสุขภาพ เพราะมีส่วนผสมของเครื่องเทศสมุนไพร โดยเฉพาะขมิ้นชันมีผลงานวิจัยที่ออกมายืนยันถึงสารต้านอนุมูลอิสระ ดังนั้นอาหารไทยหลายตัวที่เลือกมาใช้จะมีส่วนผสมของขมิ้นชัน
ทั้งนี้ ที่เลือกแกงทั้ง 4 สูตร เพราะเป็นแกงไทยที่มีส่วนผสมของสมุนไพรและเครื่องเทศ มีสารไดสารฟันอลิค ในการต้านอนุมูลอิสระ และเป็นแกงไทยที่คนรุ่นใหม่เริ่มไม่ค่อยรู้จักและได้เห็นหน้าตากันมากนัก อย่าง แกงคั่ว ส่วนแกงเขียวหวานก็เป็นแกงไทยซึ่งเป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมในกลุ่มของ ชาวต่างชาติ ในขณะที่แกงเหลืองนั้นเป็นอาหารประจำท้องถิ่นอย่างภาคใต้ ที่มีส่วนผสมของขมิ้น เช่นเดียวกับข้าวหมก ที่มีส่วนผสมของขมิ้นและเครื่องเทศหลายตัวที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย

สำหรับในส่วนของข้าวหนึ่งก้อนที่ทางสถาบันฯทำออกมาจะมีขนาดน้ำหนักประมาณ 25 กรัม ซึ่งได้มีการคำนวณแล้วว่าเป็นขนาดที่กำลังพอดีคำ ต้นทุนอยู่ที่ประมาณชิ้นละ 1-2 บาท ขึ้นอยู่กับชนิดของต้นทุนแกง ซึ่งเป็นต้นทุนที่ยังไม่รวมค่าดำเนินการ หรือค่าใช้จ่ายในเรื่องอื่นๆ ข้อเสียของข้าวแกงทอดอยู่ที่ไขมันที่ค่อนข้างสูง เพราะต้องผ่านการทอด แต่ก็ยังไม่สามารถหาวิธีใดที่มาใช้แทนการทอด เพราะการทอดจะได้รสชาติที่กรอบนอกและนุ่มใน
พี่เพลินใจ เล่าถึงงานวิจัยชิ้นนี้ว่า สามารถขยายผลได้ในหลายระดับ ไม่ว่าจะเป็นบริษัทขนาดใหญ่ ที่อยู่ในไลน์ของอาหารโฟรเซ่น สามารถรับการถ่ายทอดเทคนิคก็นำไปผลิตได้เลย หรือในส่วนของการขยายผลในกลุ่มเอสเอ็มอี ก็สามารถทำได้เช่นกัน เพราะเป็นงานวิจัยที่ไม่ได้ใช้เทคโนโลยีการผลิตที่สูงมาก ทุกคนสามารถทำได้โดยรู้เทคนิคการผลิต และนำไปขยายผลในรูปของอาหารอื่นๆ ได้อีกจำนวนมาก ซึ่งอาหารไทยก็ยังมีอีกนับร้อยชนิดให้สามารถไปขยายผลต่อได้

โดยผลงานวิจัยชิ้นนี้ได้ใช้เวลา 5 เดือนในการทำวิจัย และทาง สถาบันได้ส่งผลงานเข้าประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ซึ่งจัดโดยมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และได้รับรางวัลชนะเลิศ เพราะเป็นนวัตกรรมระดับประเทศด้านผลิตภัณฑ์ข้าวที่มีการเปลี่ยนลักษณะและรูป แบบของข้าวแกงทั่วไปให้เป็นรูปลักษณ์ที่เป็นสากลสะดวกในการเตรียมรับประทาน และได้ทำการจดอนุสิทธิบัตร ผู้สนใจต้องขอรับการถ่ายทอดจากสถาบันฯเท่านั้น
โทร.0-2942-8630 ต่อ 814 **ข้อมูลเพิ่มเติมแฟรนไชส์ป้าอู๊ดข้าวแกงทอด**
อ้างอิงจาก ผู้จัดการออนไลน์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น