เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง

อ่าน.......ขำๆ

วันเสาร์ที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ตำนานรัก ราชวงศ์อังกฤษ


เรื่อง ราวความรักของพระราชวงศ์อังกฤษ หยิบมาเล่ากี่ครั้งกี่หน ก็ยังมีเสน่ห์ชวนติดตาม ยิ่งในบรรยากาศอึมครึมแบบนี้ด้วยแล้ว เศรษฐกิจก็ตกสะเก็ด และยังมีกระแสต่อต้านราชวงศ์กระพือออกมาเป็นระยะๆ การประกาศหมั้นอย่างเป็นทางการของ “เจ้าชายวิลเลียม” กับแฟนสามัญชน “เคท มิดเดิลตัน” จึงถือเป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่า ที่สร้างความสุข และจุดประกายความหวังให้คนอังกฤษทั้งประเทศ

ในขณะที่ “เจ้าชายวิลเลียม” ทรงใช้เวลารอคอยนานถึง 8 ปีเต็ม เพื่อค้นหาหัวใจของตัวเอง จนมั่นพระทัยพอจะคุกเข่าขอแฟนสาวแต่งงาน ย้อนกลับไปในสมัยของ “พระเจ้าจอร์จ ที่ 6” พระราชบิดาของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ ซึ่งมีพระราชศักดิ์เป็นพระมาตามหัยกา (ปู่ทวด) ของ “เจ้าชายวิลเลียม” ก็ทรงสร้างตำนานตื๊อเท่านั้นที่ครองโลกไว้อย่างลือลั ่น

โดยขณะดำรง พระยศเป็น “เจ้าชายอัลเบิร์ต” พระชนม์ย่าง 25 ชันษา ทรงได้รับการแนะนำให้รู้จักกับ “เลดี้เอลิซาเบธ โบว์ส ลีออน” ในงานเลี้ยงเต้นรำงานหนึ่ง ซึ่งจัดขึ้นอย่างหรูหรา ที่โรงแรมริทซ์ โฮเต็ล ใจกลาง กรุงลอนดอน เมื่อเดือน ก.ค. 1920 และเพียงแวบแรกที่ได้เห็นหน้า...พระองค์ก็ทรงหลงรักเ ลดี้ผู้งดงามเข้าอย่าง เต็มเปา กระนั้น ฝ่าย “เลดี้เอลิซาเบธ” กลับไม่กระตือรือร้นที่จะรับรักแต่อย่างใด เพียงเล่าให้เพื่อนสนิทฟังว่า เจ้าชายก็ดูใช้ได้


พระเจ้าจอร์จ ที่ 6 กับพระชายา

หลังจากนั้นในช่วงฤดูร้อน เจ้าชายหนุ่มเริ่มทนเสียงเรียกร้องของหัวใจไม่ไหว จึงตัดสินพระทัย เสด็จไปเยี่ยม “เลดี้เอลิซาเบธ” ถึงที่บ้านฝ่ายหญิง โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าสักคำ แทนที่จะดี๊ด๊าดีใจ ว่ากันว่า เลดี้ผู้ถูกหมายปองกลับบันทึกลงไดอารี่ว่า ช็อกไปเลย!! “เจ้าชายอัลเบิร์ต” มาหาเราที่บ้านเมื่อวันเสาร์นับวัน “เจ้าชายอัลเบิร์ต” จะยิ่งหลงรัก “เลดี้เอลิซาเบธ” เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ โดยเจ้าชายลงทุนคุกเข่าขอสตรีผู้เป็นที่รักเสกสมรสด้ วยถึง 3 ครั้ง 3 ครา ภายในเวลา 3 ปี แต่ก็ถูกปฏิเสธอย่างไม่ไยดีทุกหน สร้างความไม่พอใจให้พระราชบิดา “พระเจ้าจอร์จ ที่ 5” และพระราชมารดา “สมเด็จพระราชินีแมรี่” เป็นอย่างมาก กับท่าทีเมินเฉยไม่ให้เกียรติกัน

อย่าง ไรก็ดี เพราะถือคติว่า ตื๊อเท่านั้นที่ครองโลก ในที่สุด เมื่อวันที่ 14 ม.ค.1923 “เลดี้เอลิซาเบธ” ก็ยอมใจอ่อนรับปากเสกสมรสกับเจ้าชายผู้สูงศักดิ์ หลังทนลูกตื๊อของเจ้าชายไม่ไหว เพราะตามง้อตามขอแต่งงานอย่างต่อเนื่อง กระทั่งถึงดึกดื่นมืดค่ำ เบื้องลึกระบุว่า สาเหตุที่เลดี้ลังเลใจไม่รับปากสักที ก็เป็นเพราะมีหนุ่มๆมารุมขายขนมจีบหลายคน โดยรายที่มีภาษีดีกว่าเพื่อนคือ “เจมส์ สจ๊วต” ซึ่งเพียรเฝ้าอยู่เช่นกัน โชคดีที่คู่แข่งคนสำคัญของเจ้าชายถูกเรียกตัวไปทำงาน ที่อเมริกา ทำให้หนทางสะดวกโยธินขึ้น

เมื่อมาถึงยุคของ สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 พระประมุของค์ปัจจุบันของสหราชอาณาจักร ซึ่งมีพระราชศักดิ์เป็นพระอัยยิกาของ “เจ้าชายวิลเลียม” ก็มีเรื่องราวให้เล่าขานมากมายไม่แพ้กัน พระองค์ต้องร้องเพลงรออยู่นานหลายปีกว่าจะได้เสกสมรส กับชายหนุ่มผู้เป็นที่ รัก โดยเหตุผลหลักเป็นเพราะยังทรงเด็กเกินไป ขณะนั้นทรงมีพระชนม์เพียง 13 ชันษาเท่านั้น ตอนที่ได้พบกับพระญาติห่างๆ “ร้อยเอกฟิลิป เมาท์แบตเทน” เจ้าชายแห่งกรีซและเดนมาร์ก ระหว่างเสด็จเยือนวิทยาลัยกองทัพเรือดาร์ทมาธ เมื่อปี 1939 มีการบันทึกไว้ว่า “เจ้าหญิงเอลิซาเบธ” ทรงเขินอายจนแก้มแดงเป็นลูกตำลึง เพราะทรงตกหลุมรักเจ้าชายรูปงามตาสีฟ้าผมสีทองตั้งแต ่แรกพบ


ควีนเอลิซาเบธที่ 2 และเจ้าชายฟิลิป

เรื่องราวความรักระหว่างพระญาติทั้ง 2 พระองค์ ถูกเก็บงำไว้เป็นความลับยาวนานถึง 7 ปีเต็ม กว่าที่สาธารณชนจะล่วงรู้ความจริง กระนั้น ก็เป็นที่ทราบกันในหมู่พระบรมวงศานุวงศ์ใกล้ชิด โดย “เจ้าหญิง นิโคลัสแห่งกรีซ” ซึ่งมีศักดิ์เป็นน้าของ “เจ้าชายฟิลิป” เคยแซวหลานชายว่า “ฟิลิป” เตรียมจะเป็นพระสวามี ของควีนแห่งสหราชอาณาจักร ก็เพราะเหตุนี้จึงเลือกรับใช้กองทัพเรืออังกฤษตั้งแต ่ต้น

ในที่สุด เวลาที่รอคอยก็มาถึง เมื่อ “เจ้าหญิงเอลิซาเบธ” เจริญชันษาครบ 20 ชันษาเต็ม งานอภิเษกสมรสถูกจัดขึ้นเมื่อวันที่ 20 พ.ย.1947 ท่ามกลางการถกเถียงอย่างหนักถึงคุณสมบัติที่ไม่เข้าต าของ “ร้อยเอกฟิลิป” โดยหลายกระแสติงว่าฝ่ายชายฐานะการเงินไม่ดีเท่าที่คว ร, เป็นคนต่างชาติต่างภาษา และยังมีพี่เขยเป็นเชื้อพระวงศ์เยอรมัน ซึ่งสนิทสนมพัวพันกับพวกนาซี

ขณะที่สมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธ “ควีนมัม” คัดค้านการอภิเษกสมรสครั้งนี้มาตั้งแต่ต้น ถึงขนาดเรียกลูกเขยลับหลังว่า “ทหารเยอรมัน” กระนั้น ภายหลังเริ่มเห็นความดีของลูกเขยมากขึ้นเรื่อยๆ จึงเปลี่ยนใจ มายกย่อง “เจ้าชายฟิลิป” ว่าเป็นสุภาพบุรุษอังกฤษทุกกระเบียดนิ้วมีการบันทึกไ ว้ว่า ในวันอภิเษกสมรส เกิดเรื่องราววุ่นวายให้ได้เล่าขานไม่รู้จบ นอกจากเจ้าสาวจะต้องใช้คูปองซื้อวัสดุต่างๆเพื่อมาตั ดเย็บชุดวิวาห์ เพราะอังกฤษยังไม่ฟื้นตัวจากผลกระทบของสงครามโลก “เจ้าหญิงเอลิซาเบธ” ยังต้องใจหายใจคว่ำ เมื่อจู่ๆเทียร่าที่เตรียมไว้ใช้วันงานเกิดชำรุด และต้องส่งซ่อมแซมกะทันหัน ขณะที่สร้อยมุก ซึ่งได้รับเป็นของขวัญพระราชทานจากพระราชบิดาและพระร าชมารดา กลับ อันตรธานหายไปอย่างลึกลับ เช่นเดียวกับช่อบูเกต์ดอกไม้เจ้าสาว ที่หาเท่าไหร่ก็ไม่เจอ จนตอนหลังพบว่าซุกอยู่ในห้องเก็บของ


เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ กับเจ้าหญิงไดอานา

เมื่อเจาะลึกดูตำนานความรักของ เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์ มกุฎราชกุมารอังกฤษ พระราชโอรสองค์โตของสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 ก็ดราม่าไม่น้อย พระองค์ทรงเลือกอภิเษกสมรสกับ “เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์” สุภาพสตรีผู้สูงศักดิ์จากตระกูลขุนนางเก่าของอังกฤษ เพราะเชื่อตามคำชี้แนะของพระญาติสนิทข้างพ่อที่เคารพ นับถือที่สุด คือ “เอิร์ลแห่งเมาท์แบตเทน” โดยพระองค์ได้รับการปลูกฝังมาตลอดว่า ถ้าจะมีพระชายาสักคน ก็ควรเลือกผู้หญิงไม่มีประวัติด่างพร้อย จะได้ไม่ต้องถูกขุดคุ้ยให้ขายหน้าในภายหลัง

ครั้งแรกที่ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” พบกับ “เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์” ในปี 1977 พระองค์ไม่ได้รู้สึกต้องพระทัยในตัวสาวน้อยผู้นี้แต่ อย่างใด จนเวลาผ่านไปราว 3 ปี เมื่อมาเจอกันอีกครั้งในงานปาร์ตี้บาร์บีคิวที่บ้านเ พื่อน เจ้าชายผู้สูงศักดิ์กำลังจมอยู่ในความเศร้า เพราะเพิ่งสูญเสียญาติผู้ใหญ่ “เอิร์ลแห่งเมาท์แบตเทน” เมื่อ “ไดอานา” เข้าไปพูดคุยปลอบโยนอย่างอบอุ่น จากที่ไม่เคยปรายตามองแม้แต่นิดเดียว...ภายหลัง “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ยอมรับว่าเริ่มใคร่ครวญดูใหม่ว่า สาวน้อยคนนี้อาจจะเหมาะเป็นพระชายาของพระองค์

แม้จะยังไม่ตกหลุมรัก “เลดี้ไดอานา” เพราะฝังใจอยู่กับรักครั้งแรกที่ต้องพลัดพรากสมัยหนุ ่มๆ แต่ “เจ้าฟ้าชาย ชาร์ลส์” ก็ทรงเปิดพระทัย เล่าให้พระสหายสนิทฟังว่า “ไดอานา” เป็นผู้หญิงจิตใจงดงาม และเป็นคนน่ารักน่าใคร่ พระองค์มั่นใจว่าจะต้องตกหลุมรักสาวน้อยผู้นี้ได้แน่ นอน หลังจากออกเดตกันอยู่พักใหญ่ ในที่สุดมกุฎราชกุมารอังกฤษ ก็ทรงขอ “เลดี้ ไดอานา” อภิเษกสมรสเมื่อเดือน ก.พ.1981 ตามคำแนะนำของพระราชบิดา “เจ้าชายฟิลิป” ซึ่งไม่อยากให้ปล่อยคาราคาซังนานเกินไป เนื่องจากเกรงว่าจะสร้างความเสื่อมเสียให้ฝ่ายหญิง พระราชพิธีอภิเษกสมรสยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งศตวรรษ ถูกจัดขึ้นภายในมหาวิหารเซนต์ ปอล กลางกรุงลอนดอน ท่ามกลางความยินดีของแขกเหรื่อกว่า 3,500 คน มีการถ่ายทอดสดให้ได้ชื่นชมไปทั่วโลก


รักแท้ที่รอคอยของ เจ้าชายวิลเลียม

มาถึงวันนี้ ภาพสุดประทับใจที่ “เจ้าชายวิลเลียม” พระโอรสองค์โตของ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ทรงประกาศหมั้นแฟนสาวสามัญชน “เคท มิดเดิลตัน” ซึ่งคบหากันมานานถึง 8 ปี เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (16 พ.ย.) คงทำให้หลายๆคนนึกย้อนไปถึงภาพประวัติศาสตร์ที่จารึก ในความทรงจำของชาวโลก เมื่อ 29 ปีก่อน ตอนที่ “เจ้าฟ้าชายชาร์ลส์” ทรงประกาศหมั้น “เลดี้ไดอานา สเปนเซอร์”


ไม่เพียงแต่จะรำลึกถึงเนื่องจาก “เจ้าชายวิลเลียม” ทรงเลือกใช้แหวนหมั้นไพลินล้อมเพชรของ “เจ้าหญิงไดอานา” เพื่อหมั้นหมายสตรีผู้เป็นที่รักยิ่ง เพราะอยากให้พระมารดาทรงรับรู้และตื่นเต้นไปด้วย ทว่า “เคท มิดเดิลตัน” ยังเตรียมการมาอย่างดีไร้ที่ติ เพื่อให้พร้อมเปิดตัวเป็นเจ้าหญิงยุคใหม่แห่งวินด์เซ อร์ โดยหนึ่งในเคล็ดลับสำคัญคือ การก๊อบปี้เสื้อผ้าหน้าผม รวมถึงท่วงท่ากิริยาของแม่สามีผู้ล่วงลับ เพื่อรับประกันถึงความสำเร็จ...ก็ได้แต่หวังและลุ้นไ ปกับ “เคท” ว่าเธอจะเข้มแข็งกว่า “เจ้าหญิงไดอานา” และอดทนจนได้เป็นควีนในอนาคต อย่างที่เหล่าเกจิราชวงศ์ยุโรปฟันธงไว้!!












ที่มา หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น