 |
ASTVผู้จัดการออนไลน์-- ที่อยู่อาศัยในเขตเมืองสำหรับคนเป็นหายากขึ้นทุกวัน ทางการโฮจิมินห์จัดสินใจย้ายคนตายออกจากสุสานเก่าแก่ ที่สุดแห่งหนึ่งแห่งของ ประเทศไปอยู่นอกเมือง เพื่อใช้พื้นที่ 60 เฮกตาร์ (375 ไร่) ปลูกสร้างบ้านเรือนและทำสวนสาธารณะในโครงการก่อสร้าง ที่อยู่อาศัย สำหรับพนักงานและลูกจ้างของรัฐ มีรายงานเรื่องนี้ตีพิมพ์เผยแพร่ในเว็บไซต์ของพรรคคอ มมิวนิสต์ในวันพุธ สุสานบี่งฮึงหว่า (Binh Hung Hoa) ในเขต อ.บี่งเติ่น (Binh Tan) ได้ปิดลงในเดือน ธ.ค.นี้ และ หลุมศพเกือบๆ 100,000 หลุม จะถูกย้ายไปยังสุสานหลายแห่งในเขต อ.กู๋จี (Cu Chi) และ อ.บี่งแจ๋ง (Binh Chanh) อีกส่วนหนึ่งจะต้องย้ายไปที่สุสานใน จ.ด่งนาย (Dong Nai) ที่อยู่ติดกัน รายงานระบุ สุสานบี่งฮึงหว่าให้บริการแก่ญาติมิตรของผู้ล่วงลับใ นโฮจิมินห์มา นานกว่าครึ่งศตวรรษ ตั้งแต่สมัยรัฐบาลไซ่ง่อน ปัจจุบันไม่สามารถรับผู้เสียชีวิตได้อีก ก่อนหน้านี้สุสานใหญ่ตั้งอยูย่านชานเมือง แต่ในปัจจุบันถูกชุมชนเมืองล้อมลอบ ชาวเวียดนามที่ยากจนจำนวนหนึ่ง แอบเข้าไปสร้างเรือนพักขึ้นภายในสุสาน อาศัยอยูข้างหลุมศพคนตาย ทำให้มีเรื่องร้องเรียนอยู่บ่อยๆ หลายปีมานี้ชาวเวียดนามที่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่เช่นโ ฮจิมินห์เป็น ทุกข์หนัก เนื่องจากหาที่ฝังศพให้บุพการีหรือญาติมิตรลำบากมาก ต้องนำศพไปฝั่งในสุสานที่อยู่ไกลจากถิ่นฐานขณะที่สุส านของเอกชนในย่านชาน เมืองก็มีราคาแพงยิ่งกว่าบ้านจัดสรรของคนเป็น ในฮานอยก็ไม่ต่างกัน หลายปีมานี้ทางการได้ย้ายสุสานหลายแห่งออกไปจากย่านช ุมชน เพื่อนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ด้านอื่น แห่งล่าสุดคือ สุสานวันเดียน (Van Dien) ซึ่งใหญ่ที่สุดในเมืองหลวงได้ปิดลงตั้งแต่วันที่ 15 ก.ค.2553 ไม่ยอมรับศพใหม่ๆ เข้าฝัง และหยุดให้บริการด้านฌาปนกิจ ศพกว่า 20,000 ศพในสุสานวันเดียนจะถูกขุดขึ้นมาเพื่อนำไปฝังยังสุสา นแห่งใหม่ ทั้งหมดนี้จะต้องย้ายออกไปให้หมดภายใน 3 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกันทางการกรุงฮานอย ได้สร้างสุสานแห่งใหม่ขึ้นในย่านนอกเมือง และเปิดให้บริการแทนสุสานวันเดียนแล้ว ปัญหาของสุสานใหญ่แห่งนี้คือ กว่า 10 ปีมานี้ได้ก่อมลพิษอย่างรุนแรงขึ้นในพื้นที่ ทางการ อ.แท็งจี๋ (Thanh Tri) ได้ร้องเรียนขอให้เลิกใช้สุสานแห่งนี้ตั้งแต่ 10 ปีมาแล้ว แต่ไม่สามารถทำได้ รายงานระบุ. | ||||
| ||||
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น