
อาหารที่เผ็ดจนช้างวิ่งหรือแม้แต่คนทำยังต้องใส่หน้ากาก ถ้าคุณกล้าพอที่จะลองอาหารที่เผ็ดที่สุดจากหนังสือ Lonely Planet’s Best in Travel 2011

1. บุต โจโลเกีย (Bhut jolokia)
หนังสือกินเนสต์บุ๊คได้รับรอง บุต โจโลเกีย หรือที่รู้จักกันในนามพริกปีศาจ ว่าเป็นพริกที่เผ็ดที่สุดในโลก จริงๆ แล้วไม่น่าแปลกในเท่าไหร่หากพิจารณาจากคนท้องถิ่นในแคว้นทางเหนือของอินเดีย ซึ่งเป็นที่ปลูกพริกชนิดนี้ ใช้พริกในการไล่ช้าง ซึ่งพริก บุต โจโลเกีย เผ็ดมากกว่าพริกจาลาปิโนถึง 200 เท่า อย่างไรก็ตามพริก บุต โจโลเกีย มักจะใส่ลงในเครื่องแกงอินเดียทั่วไป และที่มักพบเห็นได้ในอเมริกาคือใช้ผสมลงในซอสสำหรับทำปีกไก่
2. ยำไทย
อาหารไทยจัดว่าเป็นอาหารที่เผ็ดร้อนที่สุดในโลก และยำน่าจะเป็นอาหารที่เผ็ดที่สุด น้ำมะนาวที่ทำให้มีรสจัดและพริกที่เพิ่มความเผ็ดร้อน ประกอบกับสมุนไพรและอาหารทะเล, ผักสด, เส้น, หรือเนื้อ โดยเฉพาะพริกขี้หนู

3. แซมบัล (Sambal)
อินโดนีเซีย มาเลเซีย และประเทศใกล้เคียงที่นิยมแซมบัล กระเทียม พริกบด ที่ใช้เป็นเครื่องปรุงรส ในอินโดนีเซียมีแซมบัลหลากหลายชนิดมากกว่าจำนวนเกาะเสียอีก ส่วนผสมที่ใช้มี มะขาม ใบมะม่วง มะเขือเทศเขียว และถั่วทอด Sambal ulek ที่ไม่ธรรมดาเพราะมีแต่พริก พริก และพริกขี้หนู เป็นพื้นฐาน ตำด้วยครก บางทีอาจมีเกลือเล็กน้อย ใส่ลงไปในเทมเป้ทอด (tempeh) หรือปลาย่างสักหนึ่งช้อนก็เตรียมตัวร้องไห้กันได้เลย ความชื่นชอบในความเผ็ดร้อนในแถบภูมิภาคนี้เริ่มประมาณศตวรรษที่ 16 โดยชาวสเปนที่นำพริกมาเผยแพร่ที่โลกใหม่นี้
4. พาลล์ (Phaal)
บางคนก็บอกว่าผิวของดวงอาทิตย์ทำมาจากพาลล์ แล้วมีคนไปเอามาเล็กน้อย ตั้งแต่นั้นมาพาลล์ก็กลายเป็นแกงเผ็ด
จริงๆ แล้วก็คือความเผ็ดร้อน อย่างที่แกงเผ็ดส่วนใหญ่จะเป็น ภัตตาคารในอังกฤษเป็นผู้คิดสูตรขึ้นมาและทำมันขึ้นมาซึ่งมีพริกอย่างน้อย 10 ชนิด ทั้ง บุต โจโลเกีย, ฮาบานีโร่ (habanero), สก็อต บอนเนท (Scotch Bonnet) หรือพริกอื่นๆ ที่เผ็ดมากๆ มะเขือเทศ ขิง เมล็ดยี่หร่า และเนื้อหรือเต้าหู้ มาประกอบเป็นอาหารชนิดนี้

5. หม้อไฟเสฉวน (Sichuan hot pot)
วิธีที่จะทำให้เสิ้อเปียกชุ่ม : นั่งในภัตตาคารที่มีอยู่ทั่วไปในเสฉวน ซึ่งมีเตาอยู่บนโต๊ะทุกตัว พนักงานจะวางหม้อโลหะขนาดใหญ่ที่ด้านหนึ่งเป็นน้ำมันสีแดงที่ลอยด้วยพริกและ พริกไทยเสฉวน อีกด้านหนึ่งเป็นซุปปลา พนักงานจะใส่แก๊ซหุงต้มเข้าไป เมื่อซุปเดือด ก็จะใส่เนื้อดิบและผักลงไปคลุกเคล้า แล้วพริกล่ะ แน่นอนว่ามันเผ็ด แต่อาวุธลับอยู่ที่พริกไทยที่ทำให้ถึงกับชาเลยทีเดียว
6. cau cau ของชาวเปรู
เปรูชนะการประกวดอาหารที่ทำให้น้ำตาไหลมากที่สุดของอเมริกาใต้ ต้องขอบคุณ aji Amarillo พริกสีเหลืองที่ปลูกในท้องถิ่น ที่ทำให้อันดับความเผ็ดร้อนเพิ่มขึ้น (เปรียบเทียบ : เผ็ดกว่าพริก Serrano แต่น้อยกว่าพริกไทย)

7. Jamaican jerk
เนื้อที่จุ่มลงในซอสพริก มาจากพริกสก๊อต บอนเนท ที่ทาลงบนไก่หรือหมูเป็นเวลา 12 -14 ชั่งโมง จนเข้าถึงเนื้อใน เนื้อก็จะมีความเผ็ดร้อนจนกระทั่งนำไปปิ้งบนเตาบาร์บีคิว ชาวจาไมก้ามักจะพัฒนาการผสมพริก ซึ่งมักจะใส่น้ำส้มสายชู น้ำมะนาว และของเผ็ดๆ เพื่อถนอมอาหารประเภทเนื้อมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 18
8. ยูคาตาน ฮาบาเนโร่ ซัลซ่า (Yucatán habanero salsa)
พริกฮาบาเนโร่มีต้นกำเนิดบนคาบสมุทรยูคาตานในเม็กซิโก และยังคงปลูกที่นั่นซึ่งมีพริกหลากสีสัน ทั้ง เขียว ส้ม แดง ชมพู น้ำตาล และขาว ซึ่งแน่นอนว่าทำให้อาหารมีรสชาติ และฮาบาเนโร่ ซัลซ่า หนึ่งถ้วย (พริกเผาปั่นกับกระเทียม น้ำมะนาว เกลือ มะเขือเทศ และหัวหอม) ซึ่งใกล้เคียงกับอาหารแบบยูคาตานที่สุด

9. ซุปพริกไทยแอฟริกันตะวันตก
การ์นา ไลบีเรีย ซีเรีย เทือกเขาซีเรีย และไนจีเรีย มักมีรูปแบบที่เป็นของตัวเองและหลากหลาย แม่ว่าส่วนประกอบอื่นๆ อาจจะเปลี่ยนไป บางทีเป็นตีนไก่ ผ้าขี้ริ้ว บางทีก็เป็นปลา มักจะมีมะเขือเทศ รวมกับพริกแดง ระดับความเผ็ดร้อนก็จะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเมื่อใช้พริกสก๊อต บอนเนท อาหารจะเสิร์ฟกับข้าวขาวหรือเต้าหู้
10. Vindaloo
ชาวโปรตุเกสได้แนะนำ Vindaloo ให้กับคนอินเดีย ในศตวรรษที่ 16 ขณะที่พวกเขาล่องเรือมาที่กัว (Goa) และชื่อก็มาจากคำว่า vinho (ไวน์) ในภาษาโปรตุเกส และ alhos (กระเทียม) ซึ่งเป็นส่วนผสมหลัก แกงของชาวกัวเกิดขึ้นด้วยการเพิ่มมิ้นท์ ขิง กานพลู พริกเป็นกองๆ และเนื้อสัตว์ (มักจะเป็นหมูหรือกุ้ง) ลิ้นคุณอาจจะสั่น แต่จำไว้ว่าพริกช่วยกระตุ้นเอนโดรฟีนในสมองเหมือนกับมอร์ฟีน

ที่มา http://www.lonelyplanet.com/india/travel-tips-and-articles/76258#
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น