เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง

อ่าน.......ขำๆ

วันเสาร์ที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2553

สงครามจบลงได้หากคุณต้องการ...สุขสันต์วันคริสต์มาส จาก "จอห์นและโยโกะ"

โดย...อายตนะ


    อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันคริสต์มาส ตามศูนย์การค้าเปิดเพลงคริสต์มาสเพราะๆกันมากเพลง Happy Xmas (War is Over) ของ John Lennon และภรรยา Yoko Ono เป็นอีกเพลงหนึ่งที่ได้ยินบ่อยในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา โดยส่วนตัวแล้วชอบเพลงนี้มาแต่ไหนแต่ไรแล้ว ได้ยินที่ไรก็รู้สึกคึกคักขึ้นมาทุกทีเพราะชอบเพลงนี้ในฐานะที่เป็นเพลงปลุก ใจให้ต่อต้านสงครามทั้งๆที่ในอีกส่วนหนึ่งแล้ว เพลงนี้คือเพลงคริสต์มาสธรรมดาๆเพลงหนึ่งเท่านั้นเอง
ความเป็นมาของเพลง Happy Xmas (War is Over) นั้นน่าสนใจมาก ก่อนที่จะถึงวันคริสต์มาสของปี ค.ศ. 1969 John Lennon และภรรยา Yoko Ono ใช้เวลาหลายเดือนในการเรียกร้องสันติภาพและต่อต้านสงคราม เริ่มต้นจากในวันที่ 26 พฤษภาคม ค.ศ. 1969 ที่ทั้งคู่นำเสนอการเรียกร้องสันติภาพรูปแบบใหม่ด้วยการนอนอยู่บนเตียง (bed-in) ในห้องหมายเลข 1742 ของโรงแรม La Reine Elizabeth ในกรุง Montreal ประเทศแคนาดา ต่อมาในวันที่ 15 ธันวาคม วงดนตรี The Plastic Ono Band ของ John และ Yoko ได้ร่วมแสดงดนตรีในงาน "Peace for Christmas" ที่องค์การ UNICEF จัดขึ้นที่กรุง London
   

ช่วงกลางปี ค.ศ. 1969 John และ Yoko วางแผนที่จะเรียกร้องสันติภาพด้วยการจัดทำไปรษณียบัตรที่เขียนว่า WAR IS OVER! IF YOU WANT IT ส่งไปยังผู้คนจำนวนมากในหลายประเทศแต่ Yoko กลับชอบการทำเสื้อยืดแจก ในที่สุด John ตัดสินใจที่จะเช่าป้ายโฆษณาขนาดใหญ่ในเมืองใหญ่ 11 เมืองคือ New York, Los Angeles, Toronto, Montreal, Rome, Athens, Amsterdam, Paris, London, Tokyo, Hong Kong ติดข้อความ WAR IS OVER ! IF YOU WANT IT. Happy Christmas from John & Yoko เพื่อต่อต้านสงครามเวียดนาม
นอกจากป้ายโฆษณาขนาดใหญ่แล้วพวกเขายังทำใบปลิวและเสื้อยืดแจกด้วย การดำเนินการต่อต้านสงครามและเรียกร้องสันติภาพของ John และ Yoko ได้รับความสนใจและมีผู้เข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก มีคนถาม John ว่าเสียเงินไปกับการเรียกร้องสันติภาพและต่อต้านสงครามเท่าไร John ตอบว่าไม่ทราบ แต่คิดว่าถูกกว่าชีวิตคนๆหนึ่งที่ต้องสูญเสียไปในสงคราม
   



ปลายเดือนตุลาคม ค.ศ. 1971 John ตัดสินใจแต่งเพลง Happy Xmas (War Is Over) เพื่อสานต่อการเรียกร้องสันติภาพและการต่อต้านสงครามของเขา ในขณะนั้นสงครามเวียดนามสร้างความวิตกกังวลและอึดอัดให้กับอเมริกันชนและชาว โลกเป็นอย่างมาก John เขียนเพลงนี้ขึ้นหลังจากที่เพลง Imagine ของเขาได้รับความนิยมอย่างมากไปแล้ว ความมุ่งหมายจริงๆก็คือต้องการให้เป็นเพลงแห่งสันติภาพ เพื่อให้ทุกคนมาร่วมต่อต้านสงคราม ไม่ลืมว่าในระหว่างที่ผู้คนกลุ่มหนึ่งกำลังเฉลิมฉลองเทศกาลคริสต์มาสอย่างมี ความสุขนั้น ยังมีสงครามอยู่อีกหลายแห่งบนโลก และถ้าทุกคนต้องการร่วมกัน สงครามก็จบลงได้
John บันทึกเพลงดังกล่าวที่ Record Plant ในกรุง New York ความน่ารักของเพลงอยู่ที่การเริ่มต้นด้วยเสียงกระซิบเบาๆของ John และ Yoko อวยพรวันคริสต์มาสลูกของตน เริ่มจาก Yoko กระซิบว่า Happy Christmas Kyoko และตามด้วย John กระซิบว่า Happy Christmas Julian นอกจากนี้ยังมีเด็กๆจากคณะนักร้องประสานเสียง ชื่อ The Harlem Community Choir มาร้องประสานเสียงท่อนที่เป็นสร้อยของเพลงที่ร้องว่า war is over if you want it, war is over now.      


เพลง Happy Xmas (War Is Over) ออกวางจำหน่ายในสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 6 ธันวาคม ค.ศ. 1971 และเข้าไปอยู่ในอันดับ 2 ของ Billboard Top 100 ส่วนในประเทศอังกฤษบ้านเกิดของ John ออกวางจำหน่ายช้ากว่าในสหรัฐอเมริกาเกือบปีคือในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 1972 และขึ้นถึงอันดับ 2 ของ British Singles Chart ในคริสต์มาสปีนั้น ต่อมา Happy Xmas (War Is Over) ก็กลับเข้าสู่อันดับเพลงยอดนิยมของอังกฤษอีกครั้งหนึ่งเมื่อ John Lennon เสียชีวิตลงก่อนที่จะถึงวันคริสต์มาสเพียง 17 วัน ทำให้ Happy Xmas (War Is Over) กลับมาได้รับความนิยมใหม่และขึ้นถึงอันดับ 2 ในปลายปี ค.ศ. 1980  
     
เป็นเรื่องแปลกและเป็นความเก่งของ John Lennon ที่สามารถทำให้เรื่องที่แตกต่างกันอย่างมาก 2 เรื่องมาอยู่รวมกันได้และอยู่อย่างกลมกลืนไม่ขัดแย้งกัน เพลงสำหรับเฉลิมฉลองเทศกาลแห่งความสุขของครอบครัวกับเพลงเพื่อเรียกร้อง สันติภาพและตต่อต้านสงครามรวมเป็นเพลงๆเดียวกัน
 
    ปัจจุบัน เป็นที่ยอมรับแล้วว่าเพลง Happy Xmas (War Is Over) เป็นเพลงคริสต์มาสที่ได้รับความนิยมอยู่ในอันดับต้นๆของโลก มีผู้นำไปร้องใหม่มากมายหลายแบบ ที่ชอบก็มีในแบบของ the 3 Tenors คือ Pavarotti, Domingo และ Carreras ที่ร้องในการแสดง Christmas in Vienna เมื่อเดือนธันวาคม ค.ศ. 1999, Yo Yo Ma เองก็เคยเล่น Cello เพลงนี้ไว้ในอัลบั้ม Songs of Joy and Peace ส่วน Robbie Williams ก็นำมาร้องไว้น่าฟังเช่นกัน      

จากเพลงประท้วงสงครามกลายมาเป็นเพลงคริสต์มาสที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เพลง Happy Xmas (War Is Over) จะยังคงอยู่กับเราต่อไปทุกคริสต์มาสเพราะเป็นเพลงที่มีความหมายดีและมีท่วงทำนองที่ไพเราะ และที่สำคัญที่สุด เป็นเพลงของ John Lennon ศิลปินผู้ยิ่งใหญ่ตลอดกาล      

ในส่วนของการต่อต้านสงครามนั้น ปัจจุบัน Yoko Ono ก็ยังคงทำต่อไป มีการสนับสนุนให้แปลข้อความ WAR IS OVER ! IF YOU WANT IT. Happy Christmas from John & Yoko ไปแล้วกว่า 100 ภาษารวมทั้งทำเป็นสัญญาณธง ภาษามือ Morse code อักษร Braille ด้วย      

        Happy Xmas (War is Over)  John Lennon, Yoko Ono  
..................................
(Happy Xmas Kyoko
Happy Xmas Julian)
   
So this is Xmas
And what have you done
Another year over
And a new one just begun
And so this is Xmas
I hope you have fun
The near and the dear one
The old and the young
  A very Merry Xmas
And a happy New Year
Let′s hope it′s a good one
Without any fear

And so this is Xmas
For weak and for strong
For rich and the poor ones
The world is so wrong
And so happy Xmas
For black and for white
For yellow and red ones
Let′s stop all the fight

A very Merry Xmas
And a happy New Year
Let′s hope it′s a good one
Without any fear

And so this is Xmas
And what have we done
Another year over
A new one just begun
And so happy Xmas
We hope you have fun
The near and the dear one
The old and the young
   A very Merry Xmas
And a happy New Year
Let′s hope it′s a good one
Without any fear
War is over, if you want it
War is over now

Happy Xmas  
 
  อายตนะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น