เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง

อ่าน.......ขำๆ

วันพุธที่ 23 มีนาคม พ.ศ. 2554

ศึกยุทธหัตถีพระนเรศวรและพระมหาอุปราชาในพงศาวดารพม่า


  ถ้าพูดถึงสงครามยุทธหัตถีแล้ว เชื่อว่า ทุกคนคงรู้จักกันดี ว่าเป็นการรบครั้งยิ่งใหญ่บนหลังช้างระหว่าง สมเด็จพระนเรศวรและมหาอุปราชามังกะยอชวา แต่ในหนังสือ มหาราชวงศ์พงศาวดารพม่า ฉบับหอแก้วนั้น มีบันทึกถึงเหตุการณ์ในครั้งนี้แตกต่างออกไปโดยได้เขียนไว้ดังนี้ (จะสรุปแบบสังเขป)

   ในสงครามครั้งนั้น กองทัพหงสาวดีได้รุกเข้ามาถึงชานพระนครอยุธยา ข้างสมเด็จพระนริศ(พม่าเรียก พระนเรศวรว่า พระนริศ) ก็ได้เสด็จนำกองทัพออกไปรับศึก กองทัพทั้งสองฝ่ายเข้าประจัญหน้ากันและรบพุ่งอย่างดุเดือด ทั้งพลปืนไฟต่างก็โหมระดมยิงเข้าใส่กันอย่างหนาแน่น ในขณะนั้นเอง ช้างของเจ้าเมืองชามะโรเกิดคลั่งจนควาญบังคับไม่อยู่และพุ่งเข้าแทงช้างทรง ของพระมหาอุปราชาจนเสียหลัก ซึ่งในชั่วจังหวะดังกล่าวนั้น ได้มีกระสุนปืนจากฝ่ายไทยพุ่งเข้าไปต้ององค์พระมหาอุปราชาจนสิ้นพระชนม์

หาก แต่กลางช้างนั้น รีบโดดเข้าประคองพระศพเอาไว้ได้ จึงไม่ฟุบลงไป ข้างพระเจ้าแปร อนุชาของพระมหาอุปราชาที่เป็นรองแม่ทัพ เห็นพระเชษฐาสิ้นพระชนม์แล้วก็ให้หมดกำลังใจที่จะรบต่อ จึงถอยทัพออกจากชานพระนครอยุธยา

โดยในเวลานั้น เนื่องจากพระศพของพระมหาอุปราชายังมิได้ฟุบลงกับคอช้าง จึงทำให้ฝ่ายไทยไม่รู้ว่า จอมทัพหงสาวดีสิ้นพระชนม์แล้ว สมเด็จพระนริศจึงมิได้เสด็จนำทัพไล่ตามตี หลังจากนั้นกองทัพหงสาวดีก็ล่าถอยออกจากเขตแดนอโยธยากลับสู่กรุงหงสา จนหมดสิ้น




ก็เป็นข้อความที่บันทึก ในพงศาวดารพม่า ซึ่งจะเห็นว่า ผิดจากของเราโดยสิ้นเชิง และที่นำมาลงให้อ่านกัน ก็ไม่ได้มุ่งหมายให้เกิดวิวาทะอะไรนอกจากเพียงเพื่อนำเสนอข้อมูลอีกแง่มุม หนึ่งของมหาสงครามครั้งนี้ให้เป็นความรู้


*********************************************




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น