เวียดนามบุกชายแดนไทย | |
สมรภูมิที่ถูกลืม | | A Forgotten War |
| รถถังพีที-76ของเวียดนามเข้าสู่กรุงพนมเปญเมืองหลวงของกัมพูชา ได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีจากชาวกัมพูชาในฐานะผู้ขับไล่เขมรแดง |
คุยกับนายแทนอาร์มี่ ก่อนอื่นผมต้องขอชี้แจงก่อนว่า ภาษาที่ใช้ในเรื่องนี้อาจมีการผิดพลาด เนื่องจากเป็นการแปลจากภาษาอังกฤษมาเป็นภาษาไทย เขมร เวียดนาม อีกทีหนึ่งซึ่งหาแหล่งอ้างอิงจากในประเทศเราค่อนข้างยาก ผมเคยได้ทราบเรื่องที่เวียดนามส่งทหารบุกชาย แดนไทยครั้งแรก จากนิตยสารสมรภูมิเรื่องการรบที่ช่องบก ต่อมาก็ได้ทราบมากขึ้น จากเว็บบอร์ดต่างๆแต่ข้อมูลในไทยก็ยังคงมีน้อยอยู่ดี และส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะมีการเปิดเผยเรื่องนี้มากนัก ผมคิดว่าการเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้จะช่วยให้เราคนไทยได้รับทราบว่า การรบที่ชายแดนไทย-กัมพูชาเคยเกิดขึ้นมานานแล้ว การปะทะกันระหว่างกองทัพไทยและเวียดนามใน ครั้งนี้ ทีแรกคนไทยได้ยินก็จะคิดแ่ต่ว่าเวียดนามเป็นฝ่ายรุกราน เป็นประเทศที่ต้องการจะยึดภาคอีสานของไทย และขยายลัทธิคอมมิวนิสต์มาสู่ไทย ซึ่งนั้นก็ถูกส่วนหนึ่งแต่ยังมีอีกหลายส่วนที่ซับซ้อนกว่านั้น ที่เป็นสาเหตุให้เวียดนามทำการโจมตีชายแดนไทย นั้นคือการที่ไทยให้การสนับสนุนเขมรแดง ผู้เป็นศัตรูกับเวียดนามและเขมรเฮงสำรินหรือกัมพูชาในปัจจุบัน จึงไม่น่าแปลกใจที่กัมพูชาในวันนี้จะยังคลางแคลงใจกับไทยเรา การที่เวียดนามบุกไทยเป็นผลสะท้อนมาจาก สงครามเวียดนามบุกกัมพูชาขับไล่เขมรแดง และต่อยอดไปเป็นสงครามสั่งสอน ระหว่างจีนกับเวียดนาม ซึ่งทั้งหมดนี้รวมเป็นสงครามอินโดจีนครั้งที่สาม ต่อเนื่องมาจากสงครามเวียดนาม (สงครามอินโดจีนครั้งที่สอง) เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่แทนอาร์มี่ได้ เขียนขึ้น โดยมีประเทศไทยของเราเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะอยากทราบในเรื่องนี้และเป็นการแบ่งปันความรู้ให้กับทุกท่านด้วย และก็หวังว่าปัญหาที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในปัจจุบัน จะไม่เกิดขึ้นซ้ำรอยเช่นเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วนี้ แทนอาร์มี่ TANARMY อังคาร ๖ ตุลาคม ๒๕๕๒ |
|
การฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ของเขมรแดงและการปกครองที่โหดเหี้ยม ทำให้ชาวกัมพูชาต้องเสียชีวิตนับล้านคน เวียดนามใช้อาวุธผลิตโดยอเมริกาที่ยึดได้จากเวียดนามใต้ ในการบุกกัมพูชาเช่น รถสายพานลำเลียงพล เอ็ม113ในภาพนี้ | เมื่อ เวียดนามได้ยาตราทัพบุกยึดกัมพูชาจากเขมรแดงในปี 1978 ก็ส่งผลให้เกิดอันตรายต่อความมั่นคงของประเทศไทย เพราะต้องสูญเสียกัมพูชา ซึ่งเป็นเสมือนประเทศกันชนสกัดอิทธิพลของเวียดนาม ทำให้ไทยต้องเผชิญหน้ากับเวียดนาม ที่มีทหารอยู่ในกัมพูชาและลาวรวมกันมากถึง 300,000นาย รัฐบาลไทยได้เริ่มเตรียมการป้องกันชายแดนระหว่างไทย-กัมพูชา และเพิ่มความเข้มงวดในการข้ามชายแดนมากขึ้น ถึงกระนั้นเวียดนามก็ยังคงรุกล้ำเข้ามาในดินแดนของไทยบ่อยครั้ง ระหว่างช่วงปี 1979-88 เพื่อกวาดล้างกองโจรเขมรแดงและกลุ่มอื่นๆ ผู้ทำการต่อต้านเวียดนามผู้ยึดครองประเทศบ้านเกิดของเขา ซึ่งกบดานอยู่ตลอดชายแดนฝั่งไทย โดยไทยยังคงระวังตัวในแผนการของเวียดนาม ที่อาจเป็นการคุกคามเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยเป็นประเทศที่เสี่ยงต่อการ ถูกเวียดนามโจมตีมากที่สุด ในหมู่ประเทศสมาชิกอาเซี่ยน ในเวทีอาเซี่ยน ไทยต่อต้านการรุกรานกัมพูชาของเวียดนาม และสงสัยในวัตถุประสงค์ระยะยาวของเวียดนาม โดยเกรงว่าการที่เวียดนามเคลื่อนไหวในครั้งนี้ จะเป็นการเข้ามาแทรกแซงภายในประเทศไทย ด้วยการสนับสนุนพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย ที่ทำสงครามกองโจรอยู่กับรัฐบาล ด้วยสาเหตุนี้ไทยจึงสนับสนุนสหรัฐอเมริกา ในการสกัดกั้นอิทธิพลของคอมมิวนิสต์ในเวียดนามใต้ ระหว่างช่วงสงครามเวียดนาม เมื่อกรุงพนมเปญเมืองหลวงถูกยึดได้โดยกอง ทัพเวียดนาม ก็เกิดความกลัวขึ้นมาว่า เวียดนามอาจจะกระทำการเดียวกันนี้กับประเทศไทย ด้วยการบุกเข้ายึดกรุงเทพในแบบ ยุทธการดอกบัวบาน* ซึ่ง เป็นวิธีเดียวกับที่เวียดนามใช้ได้ผลมาแล้วในการยึดกรุงไซง่อน เมืองหลวงของเวียดนามใต้ส่งผลให้เวียดนามใต้ถึงกาลอวสาน และครั้งนี้ก็เช่นกันการยึดกรุงพนมเปญทำให้เขมรแดงแตกพ่ายอีกราย ทางกรุงเทพ*จึง ต้องหาพันธมิตรที่ไทยเคยถือว่าเป็นศัตรูมาตลอด นั้นคือประเทศจีนนั้นเอง ด้วยการส่งคณะทูตไปขอความช่วยเหลือถึงกรุงปักกิ่ง การกระทำของไทยครั้งนี้ยิ่งทำให้ทางฮานอยมีท่าทีแข็งกร้าวต่อไทยมากขึ้น เพราะเวียดนามกำลังมีความขัดแย้งด้านพรมแดนและลัทธิการปกครองกับจีน *เป็นพิชัยสงครามด้วยการเข้ายึดศูนย์กลาง (เมืองหลวง) ก่อนแล้วค่อยขยายออกเฉกเช่นเดียวกับลักษณะของดอกบัวบาน* บทความนี้จะเรียกเมืองหลวงแทนการเรียกชื่อประเทศเป็นบางครั้ง เช่นกรุงเทพคือไทย ฮานอยคือเวียดนาม |
ในปี 1973 ได้เิกิดการก่อตั้งรัฐบาลที่มาจากพลเรือนขึ้นในไทย (ก่อนหน้านี้เป็นรัฐบาลทหาร) รัฐบาลใหม่ต้องการปรับปรุงความสัมพันธ์กับเวียดนามเสียใหม่ (ในขณะนั้นยังเป็นเวียดนามเหนือ) ด้วยการเสนอที่จะถอนฐานทัพสหรัฐในประเทศไทยออกไป และเปลี่ยนท่าทีเป็นกลางมากขึ้น เวียดนาม (เหนือ) ตอบรับด้วยการส่งตัวแทนมาที่กรุงเทพ แต่การประชุมก็ล่มก่อนที่จะทันได้ตกลงในเรื่องใดๆ การประชุมจึงได้เริ่มอีกครั้งในเดือนสิงหาคม ปี1976 (หลังจากเวียดนามใต้แตกและรวมประเทศได้แล้ว) ได้มีการเตรียมเปิดสถานทูตและจัดตั้งเอกอัครราชทูตของทั้งสองประเทศ และมีการเจรจาเรื่องการค้าและความร่วมมือกันทางเศรษฐกิจ แต่แล้วเหตุการณ์ ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น ได้เกิดการก่อการรัฐประหารขึ้นโดยทหารอีกครั้งในเดือน ตุลาคม ปี1976 (คลับคล้ายคลับคลากับปัจจุบันยังไงชอบกล อีกอย่างเดือนตุลาฯนี่มีเรื่องทุกทีสิน่า) รัฐบาลใหม่ไม่เห็นด้วยที่จะคบค้ากับเวียดนาม การกระชับสัมพันธ์ไมตรีจึงต้องล่าช้าออกไปอีก จนถึงเดือน พฤษภาคม ปี1977 ได้มีการประชุมร่วมระหว่างไทย ลาว เวียดนาม เกี่ยวกับการฟื้นฟูโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง ที่ได้ชะงักไปเพราะเกิดสงครามเวียดนาม โดยได้เริ่มต้นโครงการในเดือน ธันวาคม ปี1978 แต่ทว่า (อีกแล้ว) ก็เกิดเหตุการณ์ที่เวียดนามได้ยาตราทัพยึดกัมพูชา ส่งผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเวียดนามตึงเครียดขึ้นมาในทันที เพราะเวียดนามได้ส่งทหารบุกและโจมตีชายแดน ทำให้ประชาชนไทยตามชายแดนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต เป็นจำนวนมาก | การทำรัฐประหารเกิดขึ้นตลอดเวลานับตั้งแ่ต่ประเทศไทย มีรัฐธรรมนูญจนปัจจุบันก็ดูเหมือนจะยังไม่มีการหยุดใช้วิธีแบบนี้ |
1982 ต้นเดือนมีนาคม เกิดเหตุการณ์ไม่สงบตลอดแนวชายแดนเป็นอย่างมาก เป็นการบุกรุกครั้งใหญ่ที่สุดโดยทหารเวียดนามกว่า 300นาย ทำให้ตำรวจตะเวนชายแดนของไทย (Thai patrol police) เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก 21 ตุลาคม พลปืนเวียดนามได้เปิดฉากยิงเครื่องบินตรวจการณ์ของไทย บริเวณใกล้กับชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทยรายงานว่าเครื่องบินลำดังกล่าว บินกลับเข้าไปฐานทัพในไทยเพื่อรับนายทหารเพิ่มเติม 1983 มกราคม ทหารรัฐบาลกัมพูชา (เฮงสำริน) สนับสนุนโดยทหารเวียดนาม ได้เริ่มการรุกใหญ่เพื่อกวาดล้างฝ่ายต่อต้านร่วมสามฝ่าย* (three united resistance) โดยการรบกระทำเหนือดินแดนของไทย การรบทำให้ฝ่ายต่อต้านและชาวบ้านกัมพูชากว่า 47,000คนต้องหลบหนีลึกเข้าไปในไทย 16 มกราคม ฝ่ายเวียดนามสามารถยึด หยาง แดงคุม (Yeang Dangkum) ทางตะวันออกของ หนองจาน คืนมาได้ เขมรเสรี*ยึดหมู่บ้านเล็กๆนี้ไว้ได้ตั้งแต่วันที่ 26ธันวาคม ปี1982 พวกเขารักษาไว้ได้จนถึงสิ้นปี และถูกเวียดนามตีแตกในที่สุด 21 มกราคม เวียดนามยิงปืนใหญ่โจมตีฐานของเขมรเสรี ทำให้พวกเขาต้องหลบเข้ามาในไทยผ่านช่องโอบก (0'Bok) พวกเขาอยู่ในเขตไทยจนถึงสิ้นเดือน 31 มกราคม - 1 กุมภาพันธ์ ทหารเวียดนามนำหน้าด้วยยานเกราะ สนับสนุนโดยปืนใหญ่ขนาดหนัก ได้โจมตีทำลายค่ายหนองจาน ค่ายผู้ลี้ภัยชาวเขมรที่ใหญ่ที่สุดในชายแดนไทย-กัมพูชา เป็นการรบภาคพื้นดินระหว่าง เขมรที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์คือ เขมรเสรี กับทหารเวียดนามบริเวณรอบนอกค่าย ฝ่ายเวียดนามใช้ทั้งปืนใหญ่ ปืนครก และจรวดโจมตี มีลูกหลงเข้ามาในเขตไทยกว่า 50ลูก ทำให้ชาวนาอายุ 66ปี เสียชีวิต บ้านเรือนได้รับความเสียหายหลายหลังรวมทั้งวัดด้วย ประชาชนหนีออกมาได้โดยไม่ทราบจำนวนผู้บาดเจ็บ ขณะเดียวกันกลุ่มมูลินากา*และ เขมรเสรีได้ออกจากการรบ หลังจากสู้รบกับเวียดนามเป็นเวลา 36ชั่วโมง ทีโรงพยาบาลเขาอีด่าง (Khao-I-Dang hospital) มีประชาชนมารับการรักษามากกว่า 100คน 31 มีนาคม ฮานอยเริ่มการล้อมโจมตีที่รุนแรงขึ้น เวียดนามไม่รอช้าที่จะยิงปืนใหญ่ ปูพรมใส่ศูนย์บัญชาการใหญ่ของเขมรแดงที่ตั้งอยู่ในเขตไทย และได้ปะทะกับฝ่ายไทยเป็นเวลาหลายวัน ทางกรุงเทพจึงต้องเริ่มเคลื่อนไหว ด้วยการรณรงค์แบบตั้งรับ การสู้รบรุนแรงขึ้นทั้งสองฝ่ายใช้ปืนใหญ่และรถถังยิงใส่กัน ทำให้มีประชาชนเสียชีวิต 30คน และบาดเจ็บอีกกว่า 300คน ประมาณกันว่ามีชาวกัมพูชากว่า 22,000คนได้อพยพเข้ามายังฝั่งไทย ต้นเดือนเมษายน ฝ่ายเวียดนามทำลายค่ายผู้ลี้ภัยพนม ฉัตร (Phnom Chat) ทำให้ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ที่เนินแดง (Red Hill) ค่ายเดวิด (Camp David) เองก็ถูกโจมตี ชาวบ้านต้องอพยพไปอยู่ที่เนินเขียว (Green Hill) และมีเครื่องบินเจ็ตของไทยถูกยิงตก 1ลำ 3 เมษายน ทหารเวียดนามประมาณ 100คน ได้บุกข้ามชายแดนเข้ามายังฝั่งไทย และได้ปะทะกับทหารไทยที่กำลังลาดตะเวน ส่งผลให้มีทหารเสียชีวิต 5นาย และได้รับบาดเจ็บอีก 8นาย 27 ธันวาคม กองกำลังเวียดนามประกอบไปด้วยทหารเดินเท้า รถถัง และยานลำเลียงพลหุ้มเกราะ ได้มุ่งหน้าเข้ามาประชิดใกล้ชายแดนด้านตะวันออกของไทย เพื่อเตรียมการโจมตีกองโจรกัมพูชา ทหารเวียดนามประมาณ 350นาย รถถังที-54 หลายคัน และรถลำเลียงพลหุ้มเกราะอีกจำนวนหนึ่ง ได้มาถึงหมู่บ้านถมอปุก (Thmar Puok) ตั้งอยู่ทางตะวันตกของกัมพูชาจากกรุงพนมเปญ ถมอปุกอยู่ห่างจากฐานทัพหลักของกองโจรเขมรที่ไม่ใช่คอมมิวนิสต์ 14ไมล์ และ 16ไมล์จากชายแดนไทย กองทัพไทยคาดว่าฝ่ายเวียดนามจะบุกกวาดล้างกองโจร เมื่อถึงฤดูแล้งของเดือนหน้า ธันวาคม ทหารเวียดนามปะทะกับทหารไทยหลายครั้งบริเวณชายแดน ทางทะเลเรือปืนของเวียดนามได้เปิดฉากยิงใส่เรือลากอวนของชาวประมงไทย ที่กำลังหาปลา ห่างจากชายฝั่งของภาคใต้เวียดนาม 20ไมล์ เวียดนามยึดเรือลากอวน 5ลำ และจับชาวประมงไทยไว้กว่า 130คน | ทหารเวียดนามได้รับอาวุธทันสมัยจากโซเวียตเป็นจำนวนมาก ในภาพเป็นเครื่องยิงจรวดประทับบ่าต่อสู้อากาศยานแบบ"สเตรล่า" รถถังที-54และ55 เป็นหัวหอกหลักของกองทัพ เวียดนาม มาตั้งแต่ยุคสงครามเวียดนาม ปืนใหญ่ 130มม.เอ็ม46ผลิตในโซเวียตและไทพ์59ผลิตในจีน สามารถยิงได้ไกลกว่า 30กิโลเมตร เวียดนามใช้ปืนแบบนี้ยิง ข้ามชายแดนมายังฝั่งไทย |
ทหารเวียดนามกรำศึกมามากมายนับครั้งไม่ถ้วนทำให้มีประสบการณ์รบ จริงมากกว่าทหารไทย แม้แต่กับทหารจีนในช่วงสงครามสั่งสอน ศัตรูตัวฉกาจของอากาศยานไทยก็คือปืนต่อสู้อากาศยานของเวียดนาม พลปืนของเวียดนามสามารถใช้ปตอ.ได้อย่างชำนาญจากการกรำศึกมานาน | 25 มีนาคม-ต้นเดือนเมษายน ฮานอยเริ่มการบุกรุกหลักครั้งที่สามในรอบห้าปี การบุกรุกข้ามชายแดนใช้เวลา 12วัน ในการกวาดล้างกองโจรเขมรแดงในประเทศไทย ใช้ทั้งรถถังผลิตในโซเวียตแบบ ที-54 ปืนใหญ่130มม. และทหารราบจำนวนกว่า 400-600นาย ฝ่ายไทยเองก็ได้ใช้ทั้งปืนใหญ่และเครื่องบินในการสนับสนุนการรบ ผลการรบทำให้ทั้งสองฝ่ายเสียทหารไป 12นาย และเครื่องบินฝ่ายไทยถูกยิงตก การบุกรุกชายแดนของเวียดนาม ทำให้ทั้งทหารและพลเรือนไทยได้รับความสูญเสีย ฝ่ายไทยกล่าวว่าเวียดนามได้โจมตีค่ายเขมรแดง ที่ช่องเขา ช่อง พระ พาไล (Chong Phra Palai Pass) อันเป็นจุดสำคัญในการติดต่อกันเชื่อมระหว่างชายแดนไทยกับกัมพูชา 15 เมษายน ทหารเวียดนามโจมตีค่ายของกองโจรกัมพูชา บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา มีชาวกัมพูชาได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตประมาณ 60คน การโจมตีเริ่มในตอนรุ่งเช้า ด้วยทหารสนับสนุนด้วยรถถังและปืนใหญ่ มีปืนใหญ่ตกมายังฝั่งไทยประมาณ 50ลูก ใกล้กับฐานของกองโจร ผู้เผชิญกับรัฐบาลกัมพูชาที่มีเวียดนามหนุนหลัง จากการตรวจสอบการออกอากาศในกรุงเทพ กองโจรที่จงรักภักดีต่อ เจ้านโรดม สีหนุ (Prince Norodom Sihanouk) ได้กล่าวว่าเวียดนามใช้กำลังพลถึง 8 กองพัน เข้าโจมตีที่มั่นของพวกเขา ที่ตา ตูม (Ta Tum) ภายในดินแดนของกัมพูชา ทางตอนเหนือของพรมแดน ขณะเดียวกันทหารไทยก็เตรียมรับมือเต็มอัตราศึก ปลายเดือนพฤษภาคม-ต้นเดือนมิถุนายน กองทัพเรือเวียดนามโจมตีใส่เรือประมงไทย ที่หาปลาใกล้กับชายฝั่งเวียดนามหลายครั้ง ทำให้มีชาวประมงไทยเสียชีวิต 3คน 6 พฤศจิกายน ทหารเวียดนาม โจมตีด่านของตำรวจตะเวนชายแดนไทย (Patrol Police Outpost) ที่มีพลประจำอยู่น้อยกว่ามาก บริเวณชายแดนใกล้กับจังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้ฝ่ายไทยเสียชีิวิต 3คน บาดเจ็บอีก 31คน และสูญหาย 5คน 18 พฤศจิกายน ค่ายหนองจานถูกโจมตีอย่างหนัก หลังจากการสู้รับกว่าสัปดาห์ ชาวกัมพูชาได้อพยพไปยังเขต 3 และ 6 8 ธันวาคม หนานหยวน (Nan Yuen) ถูกปืนใหญ่โจมตีจนต้องอพยพ 11 ธันวาคม สกสาน (Sok Sann) ถูกปืนใหญ่โจมตีจนต้องอพยพ 25 ธันวาคม หนองเสม็ด (Nong Samet) จ.ตราด ถูกโจมตี ประชาชนต้องอพยพไปที่เนินแดง ความว่ามีผู้ได้รับบาดเจ็บประมาณ 200คน ได้ถูกส่งไปอยู่ที่เขาอีด่าง ในช่วงสองสามวันแรก |
พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี โดยก่อนดำรงตำแหน่งท่านมีส่วนเป็นอย่างมาก ในการนำกองทัพไทยต่อต้านเวียดนาม พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ นายกรัฐมนตรีของไทย ผู้ที่ใช้การทูตนำหน้าการทหารในการจัดการปัญหาเขมร | 25 มกราคม อาวุธหนักของเวียดนาม ยิงปูพรมใส่จุดตรวจการณ์ของไทย ทำให้นาวิกโยธินเสียชีวิต 3นาย จึงเกิดสงครามดวลปืนใหญ่ ระหว่างปืนใหญ่เวียดนามบนบก กับเรือรบของไทยใกล้ชายฝั่ง การระดมยิงของปืนใหญ่เวียดนามในวันพฤหัสบดี เล็งไปที่จุดตรวจการณ์ของนาวิกโยธิน ที่หาดเล็ก (Haad Lek) ซึ่งเป็นหมู่บ้านที่ตั้งอยู่ใต้สุดของชายแดนไทย-กัมพูชา ฝ่ายเวียดนามยิงปืนใหญ่โดยมองดูหาดเล็กจากดินแดนกัมพูชา "นี่ดูเหมือนจะเป็นการยั่วยุโดยเจตนาของเวียดนาม" โฆษกกองทัพเรือไทยกล่าว "และดูเหมือนจะไม่ใช่ลูกหลงที่มาจากการสู้รบในกัมพูชา" เรือรบของไทยจึงตอบสนองด้วยการยิงปืนใหญ่ใส่ฐานปืนใหญ่ของเวียดนาม ฝ่ายไทยได้กล่าวที่อรัญประเทศ (Aranyaprathet) ห่างจากกรุงเทพ 135ไมล์ ว่าเรือรบไทยได้ยิงกระสุนไปกว่า 100นัด ส่วนฝ่ายเวียดนามยิงไปกว่า 70นัด 25 พฤษภาคม ผู้บัญชาการสูงสุดพลเอก ชวลิต (Commander-in-Chief General Chavalit) ได้สั่งให้ทหารทั้งหมดออกไปโจมตีตอบโต้ทหารเวียดนาม ที่บุกรุกเข้ามาในเขตไทย โดยจำกัดให้บุกไปได้ไกลไม่เกิน 5กิโลเมตร 30 พฤษภาคม หน่วยเรนเจอร์ของไทยลาดตะเวนที่ ช่องบก (Chong Bok) เพื่อโจมตีผลักดันเวียดนามออกจากดินแดนของไทย กลางปี 1987 ตลอดชายแดนไทย-กัมพูชาความยาวกว่า 800กิโลเมตร ถูกป้องกันอย่างหนาแน่นโดยทหารเวียดนามและกัมพูชา (เฮงสำริน) 4 สิงหาคม หัวหน้าพรรคชาติไทย (Chart Thai Party) พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ (General Chatichai Choonhavan) เข้าดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีคนที่ 17ของประเทศไทย ท่านได้สัญญาว่าจะดำเนินนโยบาย"เปลี่ยนสนามรบเป็นสนามการค้า" ("to turn battlefields into market places") กันยายน-ธันวาคม เวียดนามถอนทหารออกจากกัมพูชา เป็นการปิดฉากการสู้รบ ระหว่างไทยและเวียดนามที่ชายแดนไทย-กัมพูชาซึ่งดำเนินมาเกือบสิบปีลงในที่ สุด |
จากเวป http://www.tanarmy.com | "ขอคารวะดวงวิญญาณทหารไทยผู้ปกปักรักษา แผ่นดินไทยและขอให้ดวงวิญญาณของผู้สังเวยชีวิต ในสงครามครั้งนี้ทุกฝ่ายจงไปสู่สุคติด้วยเถิด" |
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น