เวลาจะทำให้ทุกอย่างดีขึ้นเอง

อ่าน.......ขำๆ

วันอังคารที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2554

เปิดชีวิตรักฉบับ "คริส เบญจกุล".."ผมโคตรรักเธอเลย"

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์7 กุมภาพันธ์ 2554 16:55 น.

คู่กันแล้วย่อมไม่แคล้วกัน
หาก ท่านผู้อ่านเชื่อเรื่องพรหมลิขิต ท่านก็อาจเป็นหนึ่งในหลายคนที่คิดเช่นเดียวกับผู้ชายที่ชื่อ "คริสโตเฟอร์ แจ๊ค เบญจกุล" ดาราน้ำใจงามที่สังคมไทยรู้จักเป็นอย่างดี เมื่อแฟนสาวนอกวงการอย่าง "มายด์-กมลชนก เกิดสุขลาภ" ที่เขาได้ทำความรู้จักและคบหากันมานานนับ 10 ปี ตัดสินใจเลือกเขาเป็นคู่ชีวิตโดยมองข้ามความพิการทางร่างกาย พร้อมเหตุผลของเธอที่ว่า

"ถึง แม้คนอื่นอาจจะมองว่าคุณคริสพิการที่ต้องใช้ไม้เท้าค้ำยันอยู่ตลอดเวลา แต่ถ้าเราโยนไม้เท้าทิ้ง แล้วจับมือช่วยกันประคองเราก็สามารถเดินได้แล้ว"

ในโอกาสเดือนแห่งความรักนี้ ทีมงาน Life & Family จึง ขอเสนอเรื่องราวสุดประทับใจของคนทั้งคู่ หลังจากที่คุณคริสได้สร้างปรากฏการณ์ความหวาน โดยใช้ช่วง "CP will you marry me" ของรายการศึกน้ำผึ้งพระจันทร์ทำเซอร์ไพร์ขอฝ่ายหญิงแต่งงานริมหาดสวนสน

เมื่อพูดถึง คริสโตเฟอร์ แจ๊ค เบญจกุล หลาย คนจำเขาได้ดีในภาพของฮีโร่ผู้เคราะห์ร้ายที่นอนเป็นเจ้าชายนิทราอยู่นับสิบ วัน หลังประสบอุบัติเหตุขณะลงไปช่วยผู้บาดเจ็บริมถนน เป็นเหตุให้โดนรถจักรยานยนต์เมาแล้วขับชนจนร่างการพิการ ความโชคร้ายในครั้งนั้น ทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป ทั้งเรื่องงาน และความรักที่มักจะเจอแต่ผู้หญิงที่มองแค่เปลือก หวังเงินกับชื่อเสียง กระทั่งมาพบกับมายด์ หญิงสาวหัวใจสวยที่รักเขาด้วยความบริสุทธิ์ใจ

"ผม เจอมายด์ในงานบรรยายเรื่องเมาไม่ขับที่วิทยาลัยของเธอ ตอนนั้นเราถามคนฟังว่า เหล้าบวกรถเท่ากับอะไร แต่ก็ยังไม่มีใครตอบถูก จนหันมาเห็นผู้หญิงแก้มยุ้ยคนหนึ่งกำลังนั่งเขียนอะไรยิก ๆ อยู่ไม่รู้ เราก็เรียกชื่อว่า ตุ้ยนุ้ยตอบได้ไหมคะ เขาก็มองซ้าย มองขวา เราก็บอกว่า หนูนั่นแหละค่ะ เธอก็ลุกขึ้นแล้วพูดเสียงดังว่า ชื่อน้องมายด์ค่ะ ไม่ใช่ตุ้ยนุ้ย เราก็ขำ ๆ และถูกชะตากับผู้หญิงคนนี้มาก" คริสเริ่มเล่า

หลังจบการบรรยายในวันนั้น คุณมายด์เป็นฝ่ายเดินเข้าไปขอเบอร์ติดต่อคุณคริสในฐานะกรรมการนักเรียนเพื่อ เก็บเป็นฐานข้อมูล พอถึงเวลาจะกลับบ้าน ทั้งคู่ก็ได้พบกันอีกครั้ง โดยคุณคริสขออาสาไปส่งที่บ้าน ถือเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่เริ่มคุย และสนิทสนมกันมากขึ้น

จากความสัมพันธ์ที่ค่อย ๆ พัฒนาจนดูเหมือนว่าจะไปกันได้ดี กลับต้องมีเรื่องผู้หญิงมาทำให้เกิดความเข้าใจผิดกัน ส่งผลให้ทั้งคุณคริส และคุณมายด์ต้องแยกห่างกันไปเป็นเวลา 5 ปีเต็ม โดยในช่วงที่ทนเหงาอยู่นั้น คุณคริสยอมรับว่า เขามีผู้หญิงเข้ามาเป็นเพื่อนคุย แต่สุดท้ายกลับพบว่า พวกเธอเหล่านั้นเข้ามาเพื่อปอกลอกเงินเพียงอย่างเดียว

แต่แล้ว วันที่เขาตัดสินใจเชื่อในเรื่อง "พรหมลิขิต" ก็ มาถึง เพราะเป็นวันที่เขาได้พบคุณมายด์ ผู้หญิงที่ตามหามาตลอด 5 ปีเต็มอีกครั้ง ทำให้เขามีโอกาสปรับความเข้าใจ และกลับมาคบกันเหมือนเดิม และนั่นจึงเป็นที่มาของรักหวานที่ทั้งคู่ตั้งใจประกาศให้สังคมรับรู้


รักที่ไม่มีเงื่อนไขของ "คริส-มายด์"
"มายด์ ไม่ได้มองว่า พี่คริสเป็นคนพิการ แต่เราจะพยายามให้เขาทำอะไรด้วยตัวเอง ถ้าคิดจะใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันแล้ว ต้องช่วยกันทำงานบ้าน มายด์ก็ทำในส่วนของมายด์ พี่คริสก็ทำบนข้อจำกัดที่พอจะทำได้ เพราะมายด์มองว่า หากวันหนึ่งวันใดเราเดินทางไปต่างจังหวัดหลายวัน อย่างน้อยเขาก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ไม่ถึงกับเต็มร้อย แต่ก็ต้องทำได้บ้าง เช่น ล้างจาน ซักผ้า รีดผ้า" คุณมายด์เล่า

ด้านคุณคริส เผยให้ฟังว่า จากที่คบกันมาหลายปี คุณมายด์เป็นคนที่จริงใจ ทำอะไรจริงจัง ละเอียดรอบคอบ และมีความเอาใจใส่ในทุกเรื่อง อย่างทุก ๆ วันที่ไปทำงานเธอจะโทรถามตลอดเลยว่า "พี่คริสอยู่ไหนแล้วคะ กินข้าวหรือยังคะ" ซึ่งเธอไม่เคยมองว่าเราเป็นคนพิการ ตรงนี้คือคะแนนความรักที่เราให้เขาเต็มร้อย

"แรก ๆ ก็ถามเขานะว่า หนูมาอยู่กับคนพิการแบบพี่ หนูไม่กลัวชีวิตลำบากเหรอคะ เขาก็บอกว่า พี่คะ หนูไม่เคยมองพี่ที่ความพิการ พี่เป็นคนปกติคนหนึ่งสำหรับหนู" พูดจบคุณคริสก็หันไปสารภาพความรู้สึกต่อหน้าฝ่ายหญิงที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ว่า "คุณเมีย (คุณมายด์) ครับ ผมตามมาคุณมา 5 ปี ผมโคตรรักเธอเลย รักจริง ๆ นะ จะรักทั้งปัจจุบัน และอนาคต" สารภาพเสร็จคุณคริสก็หันไปหอมแก้มว่าที่ภรรยาด้วยความหวานสุดเกินจะบรรยาย

ส่วนคุณมายด์ที่กำลังหน้าแดงหลังจากถูกหอมแก้ม เธอสารภาพเช่นเดียวกันว่า "มายด์ ไม่รู้หรอกว่าชีวิตนี้ เราจะได้ผู้ชายคนนี้มาเป็นคู่ ซึ่งเราก็ไม่ใช่ผู้หญิงดีเลิศมาจากไหน มายด์เป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ๆ แต่ในเมื่อเขามาอยู่กับเราตรงหน้าแล้ว เราต้องดูแลกันและกัน และช่วยประคองชีวิตให้ดีที่สุด"

อย่างไรก็ดี ไม่เพียงแต่เธอจะทำหน้าที่ดูแลคุณคริสผู้เป็นคู่ชีวิตอย่างเต็มที่แล้ว เมื่อถึงคิวที่คุณคริสต้องดูแลเธอบ้าง เขาสามารถทำได้ดีไม่แพ้กัน เพราะหากย้อนไปก่อนหน้านี้ คุณมายด์ต้องรักษาตัวด้วยอาการกระดูกหลังเคลื่อนทับเส้นประสาทหลังประสบ อุบัติตกบันไดเมื่อกลางปีที่ผ่านมา ส่งผลให้คุณมายด์เดินไม่ได้อยู่เกือบ 2 เดือน ทำให้คุณคริสต้องรับบทหนัก ดูแลทั้งเรื่องอาหาร นวดหลัง รวมไปถึงทำงานบ้านเองเกือบทุกอย่าง

ทิ้งท้ายด้วยเทคนิคการใช้ชีวิตคู่ของคุณคริส และคุณมายด์ โดยคุณคริสเป็นตัวแทนเล่าว่า ไม่มีเทคนิคอะไรมาก ถ้ามีปัญหาอะไรกัน จะเปิดใจคุยกันเลย เช่น ฉันไม่ชอบแบบนี้นะ แล้วเธอล่ะ ไม่ชอบอะไร จากนั้นเอาความลงตัวที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้มาเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิต ไม่ใช่มาทำฟอร์ม หรือวางมาดใส่กัน

นับ เป็นอีกหนึ่งคู่รักชีวิตที่ทำให้หลาย ๆ คนรู้ว่า "คนที่ใช้หัวใจรักกัน" เป็นอย่างไร โดยทั้งคู่จะเตรียมจัดฉลองวิวาห์ขึ้นในวันที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ซึ่งทีมงานก็ขอส่งคำอวยพรให้ว่าที่เจ้าบ่าว และเจ้าสาวมีความสุขในชีวิตคู่ไว้ในโอกาสนี้ด้วยนะครับ


--------------------
ลิ๊งค์ที่มาค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น